“พาณิชย์” เข้มสินค้าประมงหลังราคาฮวบ ลั่นห้ามน้ำเข้าเด็ดขาด

“พาณิชย์” เข้มสินค้าประมงหลังราคาฮวบ ลั่นห้ามน้ำเข้าเด็ดขาด


“พาณิชย์”เข้ม ติดตามสถานการณ์ ดูแลสินค้าประมงใกล้ชิดเหตุราคาหด ตัวเลข GDP ที่เติบโตลดลง จาก 3.8% ในปี 2560 เหลือ 3.6% ในปี 2561 เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว” ลั่น! พบลักลอบนำเข้าลงโทษขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (4 ก.ค.62) น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ รักษาราชการแทน รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ราคาสินค้าสัตว์น้ำลดลง เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำเข้ามาในไทย อีกทั้งชาวประมงพาณิชย์ได้รับความเดือดร้อนจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากมาตรการแก้ไขปัญหา IUU ของภาครัฐนั้น

กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ โดยเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตลาดทะเลไทย จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นตลาดที่มีการขายส่งสินค้าประมงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 70 โดยมีทั้งสินค้าของไทยและสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

 

นางสาวชุติมา เปิดเผยว่า สินค้าประมงและสินค้าประมงแปรรูปเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ ทำรายได้ให้ประเทศมากถึงกว่า 185,000 ล้านบาทต่อปี โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าทูน่ากระป๋องและปลาซาร์ดีนแปรรูป อันดับ 1 ของโลก ในช่วงที่ประเทศไทยได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรป ไทยมีความจำเป็นต้องปรับแก้กฎหมายและมาตรการให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้ไทยสามารถส่งสินค้าไปขายยังประเทศต่างๆ ได้ ในขณะนี้ ประเทศไทยได้หลุดใบเหลืองแล้ว แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ต่อไป

ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อทรัพยากรสัตว์น้ำของไทยที่จะเกิดความยั่งยืนแล้ว ยังส่งเสริมให้ภาพลักษณ์สินค้าประมงของไทยดีขึ้นและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางการค้าให้แก่อุตสาหกรรมประมงของไทยอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีทำให้ไทยมีโอกาสขยายตลาดสินค้าประมงได้มากขึ้น สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกได้มากขึ้นจากกรณีที่ได้มีการพูดถึงประเด็นราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด พบว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาวะชะลอตัว ทำให้ภาพรวมสินค้าหลายๆตัวรวมถึงสินค้าประมง ชะลอตัวไปด้วย จะเห็นได้จาก ตัวเลข GDP ที่เติบโตลดลง จาก 3.8% ในปี 2560 เหลือ 3.6% ในปี 2561 โดยเศรษฐกิจไม่ได้ชะลอเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ชะลอตัวทั้งโลก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่ออำนาจการซื้อของผู้บริโภค ทำให้ราคาของสินค้าเกษตรหลายๆ ชนิดในท้องตลาดปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าพบว่า สัตว์น้ำที่มีการนำเข้าปริมาณเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ สินค้าสัตว์น้ำในกลุ่มวัตถุดิบที่ใช้ในการแปรรูปเพื่อการส่งออกและเป็นวัตถุดิบในภัตตาคาร เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลาค็อด เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่มีในประเทศ จึงไม่กระทบกับราคาสัตว์น้ำ ที่จับโดยเรือประมงไทย โดยสินค้ากลุ่มดังกล่าวประเทศไทยได้เปิดการค้าเสรี ส่งผลให้ไม่มีภาษีนำเข้า เพื่อเป็นการลดต้นทุนวัตถุดิบ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมประมงส่งออกของไทย ในส่วนของปลาหมึก พบว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ถึงแม้ตัวเลขทางสถิติจะไม่ได้ส่งสัญญาณว่ามีการนำเข้าสูงมากผิดปกติ แต่ขอให้มั่นใจได้ว่า กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการรองรับหากมีการนำเข้าสินค้าประมงถูกกฎหมายที่ไม่ใช่สินค้า IUU เข้ามาในไทยสูงมากผิดปกติจนส่งผลกระทบต่อราคาสัตว์น้ำในประเทศ กรมการค้าต่างประเทศสามารถกำกับดูแลได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
1. หากมีการนำเข้าสินค้าประมงมาในลักษณะที่เป็นการทุ่มตลาด ผู้ประกอบการในประเทศสามารถรวมกลุ่มกันนำเสนอข้อมูลให้เห็นว่า การทุ่มตลาดนั้นก่อให้เกิดความเสียหาย โดยมีรายละเอียดกำหนดใน พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 หรือ
2. หากมีข้อมูลทางสถิติแสดงว่า มีการทะลักของสินค้าประมงเข้ามาในปริมาณมากและรวดเร็ว ผู้ประกอบการที่เสียหายต้องรวมกลุ่มมายื่นข้อมูลที่แสดงว่ามีการทะลักเข้ามาแล้วก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงจะใช้มาตรการปกป้องเพื่อแก้ไขปัญหาภายใต้ พ.ร.บ. มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้า ที่เพิ่มขึ้น พ.ศ. 2550 ได้

หากมีการลักลอบนำเข้าสินค้าประมง IUU เข้าในประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมประมง กรมเจ้าท่า และหน่วยงานความมั่นคงได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด และได้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่สินค้าประมงของไทย

ทั้งนี้ หากผู้ใดมีเบาะแสเกี่ยวกับการลักลอบสินค้าประมง สามารถแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์ทราบได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569