อ.ต.ก. จ่อเปิดซื้อขายออนไลน์ ตั้งเป้ายกระดับมูลค่าปีละ 2 หมื่นล.

อ.ต.ก. จ่อเปิดซื้อขายออนไลน์ ตั้งเป้ายกระดับมูลค่าปีละ 2 หมื่นล.


อ.ต.ก. ยกระดับ เตรียมเปิดซื้อขายระบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ และพัฒนาระบบเชื่อมโยงกับเกษตรกรเพื่อส่งตรงถึงมือผู้ ซื้อ หรือผู้บริโภคไม่ต้องผ่านคนกลาง วางเป้าสร้างมูลค่าการค้าให้ถึง 20,000 ล้านต่อปี ในปี 2564

นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการพัฒนาตลาดที่มีคุณภาพและสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเพิ่มขึ้น ได้ปรับวิสัยทัศน์โดยตั้งเป้าพัฒนาตัวเองไปสู่ความเป็นตลาดสินค้าการเกษตรที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2564

เริ่มจากปี 2562 ที่ตั้งเป้าเพื่อพัฒนาให้มีมูลค่าถึง 5,000 พันล้านบาท ปี 2563 เพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท และปี 2564 เป็น 20,000 ล้านบาท โดยการพัฒนาตลาดซื้อขายสินค้าระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.ortorkor.com

การเปิดบริการซื้อขายออนไลน์ ถือเป็นการปรับการให้บริการ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ให้สามารถส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว เช่น กทม.และปริมณฑล สามารถส่งถึงมือได้ภายใน 3 ชั่วโมง ขณะที่ต่างจังหวัด ภายใน 48 ชั่วโมง โดยคุณภาพของสินค้ายังคงเดิม และส่งได้ทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่สินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น อาหารสด ผลไม้ หรือกระทั่งไอศกรีม ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการวางระบบร่วมกับพันธมิตรทางการค้า

ทั้งนี้ ในอนาคตผู้บริโภคจะมีช่องทางการซื้อสินค้าการเกษตรที่มีคุณภาพ เข้าถึงสินค้าที่หลากหลาย และสะดวกสบาย เพราะสามารถสั่งซื้อได้จากทั้ง อ.ต.ก. และจะมีการพัฒนาระบบให้สามารถจากสั่งซื้อเกษตรกรโดยตรง ต่อไปเกษตรกรไม่จำเป็นต้องนำสินค้ามาส่งขายที่ กทม. ก็สามารถส่งให้กับลูกค้าได้โดยตรง ทำให้เกิดการกระจายเม็ดเงินไปถึงเกษตรกรทั่วประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง

นอกจากนี้ยังส่งเสริมการจัดตั้งตลาด อ.ต.ก.ในภูมิภาค (มินิ อ.ต.ก.) โดยมีการเปิดร้านค้าในพื้นที่ของ อ.ต.ก.ในต่างจังหวัด, ปั๊มน้ำมัน ปตท. และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ ตั้งเป้า 20 สาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 18 สาขา ขณะที่สินค้าในร้านส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแปรรูปคุณภาพ รวมถึงสินค้าเด่นในท้องถิ่น ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับระบบซื้อขายออนไลน์ พร้อมกับการพัฒนาแบรนด์ อ.ต.ก. สำหรับผลิตภัณฑ์แปรรูป และเบสต์ออฟ อ.ต.ก. สำหรับผลผลิตเกรดพรีเมียม เช่น แตงโมไร้เมล็ด ทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองราคาแพง และมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งสินค้าและผลผลิตที่อยู่ภายใต้แบรนด์ หรือสถานที่จำหน่ายที่มีสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง

ทั้งนี้ในอนาคตมีแผนจะพัฒนาจนถึงขั้นการเข้าไปรับรองถึงสวนของเกษตรกรว่า มีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกับที่ขายในตลาด อ.ต.ก. ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ไปซื้อกลับมาแล้วพบว่าสินค้าไม่ดี สามารถนำมาเปลี่ยนที่ อตก. ได้ทันที เป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคในเรื่องคุณภาพของสินค้า อ.ต.ก. และทำให้เกิดมูลค่าขึ้นมาอีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ยังได้ดำเนินโครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเริ่มนำร่องจากโครงการยกระดับการเพาะเลี้ยงเห็ดแครง ให้เป็นอุตสาหกรรมเห็ดแครง จ.สงขลา มีการเปิดศูนย์เรียนรู้การผลิต การพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กแปรรูปเป็นอาหารพร้อมทาน เช่น แกงคั่วเห็ดแครง ลาบเห็ดแครง และอื่นๆ ทำให้เกิดอาชีพและรายได้แก่เกษตรกร รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันยังได้เข้าไปส่งเสริมการพัฒนาแตงโมไร้เมล็ดที่ จ.นครพนม จนสามารถส่งเป็นแตงโมแช่แข็งไปอเมริกาเพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำแตงโมปั่น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจนบางช่วงเวลาปริมาณผลผลิตไม่พอต่อการส่งออกไปจำหน่าย

นอกจากโครงการเหล่านี้แล้วยังมีโครงการอื่นๆ เช่น การเปิดตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพให้เกษตรกรเวียนกันนำสินค้ามาขายฟรีตลอดปี การจัดหาตลาดสินค้าเกษตรในต่างประเทศ และส่งเสริมเกษตรกรตามพันธสัญญา ซึ่งทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของพันธกิจที่ อ.ต.ก.วางไว้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายการเป็นตลาดสินค้าการเกษตรที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาด อ.ต.ก. ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 2517 เพื่อเป็นตลาดกลางซื้อขายผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกร ซึ่งที่ผ่านมา อ.ต.ก.ได้ดำเนินงานภายใต้พันธกิจจนประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรจากมูลค่าการซื้อขายในตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งได้รับการจัดอันดับจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นให้เป็นตลาดที่ดีมีคุณภาพอันดับ 4 ของโลก ทำให้ตลาด อ.ต.ก. กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“พาณิชย์” ยกทัพสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยบุก “อินเดีย”