นายกฯ เตรียมเยือนปักกิ่ง ถก “สี จิ้น ผิง” 26-27 เม.ย.นี้

นายกฯ เตรียมเยือนปักกิ่ง ถก “สี จิ้น ผิง” 26-27 เม.ย.นี้


นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเตรียมเดินทางไปปักกิ่ง 26-27 เม.ย.นี้ จ่อ หารือทวิภาคี “สี จิ้น ผิง และหลี่ เค่อ เฉียง” และถกร่วมผู้นำ 38 ประเทศบน “เส้นทางสายไหม” รับรองแถลงการณ์ร่วม ส่งเสริมความเชื่อมโยงทุกมิติ พร้อมนำ 3 ประเด็นเชื่อมอาเซียน-จีน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เตรียมเดินทางเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26 – 27 เม.ย.2562 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งจะมีผู้นำจาก 38 ประเทศเข้าร่วม โดยจะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของประเทศ ที่อยู่ในเส้นทางสายไหมในการส่งเสริมความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงทุกมิติ รวมทั้งการเชื่อมโยงนโยบายการพัฒนาร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างประเทศที่อยู่ในเส้นทางสายไหมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สำหรับประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะผลักดันในที่ประชุม มีดังนี้

1. เน้นย้ำบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ และแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ผ่าน MPAC 2025 และ ACMECS Master Plan ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันกับ BRI บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ความโปร่งใส การเปิดกว้างและครอบคลุมทุกภาคส่วนและการเคารพกฏหมายระหว่างประเทศ

2. ขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมนโยบายประเทศไทย 4.0 นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค และการยกระดับสถานะไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์ คมนาคม และการขนส่งของอาเซียน และเป็นประตูสู่อาเซียนของจีน

3. ผลักดันให้จีนใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ ACMECS ในการเป็นตัวเชื่อมจีนและอาเซียน และส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อระหว่างกรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง – ฮ่องกง – มาเก๊า (Greater Bay Area – GBA) และกรอบความร่วมมือพื้นทีสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียง (Pan – Pearl River Delta – PPRD) กับ EEC

นอกจากนี้ นายกฯ จะได้พบปะหารือกับผู้นำระดับสูงของจีน ได้แก่ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อ เฉียง และ รองนายกฯ หาน เจิ้ง ด้วย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะหารือถึงแนวทางการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ การสานต่อและผลักดันความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะความเชื่อมโยง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงความร่วมมือจีน ญี่ปุ่น ในEEC การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ย้ำถึงความสำคัญของบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีนในภูมิภาค และการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของประเทศไทยด้วย

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ศูนย์กสิกรไทยฯคาดจำนวนอาคารชุดปี 62 ไม่สดใส