“พาณิชย์” หนุนใช้บี 20 แก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ

“พาณิชย์” หนุนใช้บี 20 แก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ


นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มน้ำมัน เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน และคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติเห็นชอบและเสนอคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 เพื่อเร่งรัดนำน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินจำนวน 160,000 ตัน ไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง และผลักดันการใช้ด้านพลังงาน

ซึ่ง กนป. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ (เฉพาะกิจ) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานอนุกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานร่วมเป็นอนุกรรมการ

ปัจจุบันกรมการค้าภายในได้บูรณาการการดำเนินมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ภายใต้คณะอนุกรรมการฯ โดยได้ประกาศรับสมัครผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ครบถ้วนตามเป้าหมาย 160,000 ตันแล้ว และกฟผ. ได้รับมอบน้ำมันปาล์มดิบแล้วประมาณ 70,000 ตัน คงเหลืออีกประมาณ 90,000 ตัน ที่ กฟผ.จะรับมอบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2562 เพื่อเร่งดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินออกจากระบบและกระตุ้นให้มีการซื้อขายผลปาล์มน้ำมันเพื่อยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรตามเป้าหมายรัฐบาล

ทั้งนี้ การผลักดันการใช้ด้านพลังงาน ได้กำหนดเป้าหมายการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 วันละ 20 ล้านลิตร ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งรัดขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งการประกาศรับรองมาตรฐานคุณภาพน้ำมัน บี 20 กำหนดยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ที่สามารถใช้ บี 20 ได้ การเพิ่มสถานที่จำหน่ายเพื่อกระจาย ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การส่งเสริมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความพร้อมในการพัฒนาเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นใหม่ให้รองรับการใช้ บี 20 รวมทั้งมาตรการลดราคาจำหน่ายบี 20 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท และการลดภาษีรถยนต์ที่ใช้ไบโอดีเซล ซึ่งมาตรการจูงใจดังกล่าวจะสามารถรองรับน้ำมันปาล์มดิบได้ปีละมากกว่า 1,270,000 ตัน

“กระทรวงพาณิชย์เชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนมาตรการของภาครัฐทั้งสองมาตรการ จะช่วยลดสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ 370,000 ตัน ให้คงเหลือไม่เกิน 200,000 ตัน ต่ำกว่าปกติที่เคยมี บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่ากิโลกรัมละ 3.20 – 3.50 บาท ต่อไป” อธิบดีกรมฯ กล่าว