SCG ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 กระแสเงินสดแข็งแกร่ง หนี้สินลด ทุ่มกลยุทธ์ขับเคลื่อน ESG เน้นผลิตภัณฑ์ Smart Value – HVA – Green และขยายฐานผลิตในอาเซียน รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน พร้อมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.50 บาทต่อหุ้น
ผลประกอบการมั่นคง คุมเข้มต้นทุน-ลดหนี้ เดินหน้าสู่อนาคตยั่งยืน
SCG เปิดเผยผลงานครึ่งปีแรก 2568 พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ ESG อย่างจริงจัง ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยกระแสเงินสด (EBITDA) ที่ 30,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของ 2567 และกำไรสุทธิ 18,436 ล้านบาท (หากไม่รวมรายการพิเศษ จะมีกำไร 3,266 ล้านบาท) ในขณะที่หนี้สินสุทธิลดลงกว่า 8,000 ล้านบาทต่อไตรมาสล่าสุด และสิ้นไตรมาส 2/2568 มีเงินสดคงเหลือถึง 45,542 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.50 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 28 สิงหาคม 2568

ขับเคลื่อนนวัตกรรมและกลยุทธ์ลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยี ยึดแนวทาง ESG
SCG ส่งเสริมกลยุทธ์ปรับโครงสร้างธุรกิจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล-หุ่นยนต์-ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างความยั่งยืน เช่น
-
การนำหุ่นยนต์และ AI ใช้ในสายการผลิต ปรับปรุงระบบจัดการคลังสินค้า โรงงานอัตโนมัติ การพัฒนา EV Mining Truck ไร้คนขับ
-
ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก ลดต้นทุนและลดคาร์บอน
-
ออกแบบและพัฒนาสินค้าใหม่ผ่าน AI ขยายสินค้าสู่กลุ่ม Smart Value Products – HVA – Green
-
ปรับโครงสร้างการดำเนินงานและธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนและยุโรป เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและตอบรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ขยายฐานผลิตในอาเซียน-จับมือพันธมิตร เดินหน้า “Green Transition”
SCG ยกระดับความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ด้วยการขยายฐานผลิตในอาเซียน โดยเน้นเวียดนามเป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อลดต้นทุนและได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีนำเข้า รวมทั้งขยายตลาดในแอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนีย มุ่งเน้นสินค้าคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Cement) และโซลูชันเพื่อความยั่งยืน เช่น กระเบื้องเกรซ พอร์ซเลน, วัสดุก่อสร้าง 3D Printing, และบรรจุภัณฑ์อาหารที่ปรับกระบวนการผลิตให้รักษาสิ่งแวดล้อม

SCG ยังเดินหน้าโครงการ “NZAP: Net Zero Accelerator Program” และ “Go Together” พร้อมจัด Leadership Forum ใน ESG Symposium เชิญพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมวิจัยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืนและสังคมคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง
เพิ่มคุณค่าธุรกิจด้วย Smart Value – HVA – Green Products เจาะตลาดเติบโตสูง
-
เร่งขยายสินค้า Smart Value Products เช่น “ปูน ADAMAX”, “ปูน 5 Star”, “ปูน Bezt” ในตลาดอาเซียน
-
ส่งเสริม High Value Added Products (HVA) และโซลูชันนวัตกรรม เช่น “CHILLOX” โซลูชันคลังสินค้าเย็นประหยัดพลังงาน, “DRS” Digital Reliability Service, นวัตกรรมฝาปิดท่อคอนกรีตความแข็งแรงสูง, ฟิล์มติดอาคาร Raycoool ป้องกันความร้อน
-
นำเข้าสินค้ากรีนและพัฒนาสินค้าวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ ให้ได้รับมาตรฐาน EPD North America และมอก.ใหม่ 2594-2567
ขับเคลื่อนธุรกิจเขียว

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG ย้ำว่า ด้วยความชัดเจนด้านกลยุทธ์ การปรับตัวทันสถานการณ์ ความทุ่มเทของทีมงานทุกกลุ่ม และการร่วมมือกับพันธมิตร จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย พร้อมผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ “Green Transition”

