โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพลังงานหมุนเวียนได้กลายเป็นหนทางสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ ในปี 2023 พลังงานสะอาดคิดเป็น 30% ของการผลิตไฟฟ้าทั่วโลก โดยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากพลังงานแสงอาทิตย์และลม
มาทำความรู้จักกับ 10 ประเทศที่เป็นผู้นำการผลิตพลังงานหมุนเวียนของโลก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังสร้างความมั่นคงทางพลังงานและโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ อีกด้วย ในขณะที่ 5 อันดับยักษ์ใหญ่ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดของโลก ที่ต้องเร่งปรับตัวด่วน

อันดับ 1. จีน – ยักษ์ใหญ่แห่งพลังงานสะอาด
จีนครองตำแหน่งผู้นำโลกด้านพลังงานหมุนเวียนอย่างไม่ต้องสงสัย ผลิตพลังงานหมุนเวียน 32% ของโลก ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างมาก
จีนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำมากที่สุดในโลกที่ 340 GW และเป็นผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์และลมอีกด้วย ความสำเร็จนี้มาจากการลงทุนขนาดใหญ่และนโยบายรัฐบาลที่เข้มแข็ง
จุดเด่น
- กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ 340 GW
- ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนสูงสุดโลก
อันดับ 2. สหรัฐอมริกา – นวัตกรรมและเทคโนโลยี
สหรัฐอเมริกาผลิตพลังงานหมุนเวียน 11% ของโลก โดยเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีพลังงานลมและแสงอาทิตย์อย่างมาก
ประเทศนี้มีศักยภาพในการผลิตพลังงานลมจากทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง รวมถึงมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เหมาะสมสำหรับฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์
จุดเด่น
- เทคโนโลยีพลังงานลมและแสงอาทิตย์ขั้นสูง
- โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งขนาดใหญ่
- การสนับสนุนจากภาคเอกชนและรัฐบาล
อันดับ 3. บราซิล – พลังจากธรรมชาติ
บราซิลผลิตพลังงานหมุนเวียน 7% ของโลก โดยมีจุดแข็งด้านไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหลัก ด้วยกำลังการผลิต 112 GW ทำให้อยู่ในอันดับ 2 ของโลก
ประเทศนี้ยังได้ประโยชน์จากภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตพลังงานหมุนเวียนหลายประเภท
จุดเด่น:
- กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ 112 GW
- ศักยภาพด้านพลังงานชีวมวล
- พื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์และลม
อันดับ 4. แคนาดา – ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
แคนาดาผลิตพลังงานหมุนเวียน 4.7% ของโลก โดยมีจุดแข็งด้านไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหลัก ด้วยแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และภูมิประเทศที่เหมาะสม
ประเทศนี้ยังมีศักยภาพด้านพลังงานลมและชีวมวลที่น่าสนใจ
จุดเด่น
- แหล่งน้ำขนาดใหญ่สำหรับไฟฟ้าพลังน้ำ
- ศักยภาพพลังงานลมจากพื้นที่กว้างใหญ่
- ทรัพยากรป่าไม้สำหรับพลังงานชีวมวล
อันดับ 5. อินเดีย – การเติบโตอย่างรวดเร็ว
อินเดียผลิตพลังงานหมุนเวียน 4.3% ของโลก และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตด้านพลังงานหมุนเวียนเร็วที่สุด
ด้วยประชากรที่มากและความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น อินเดียจึงมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์และลมอย่างจริงจัง
จุดเด่น
- เป้าหมาย 500 GW พลังงานหมุนเวียนภายในปี 2030
- ศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์สูงมาก
- การลงทุนขนาดใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน
อันดับ 6. รัสเซีย – พลังน้ำและศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้
รัสเซียมีศักยภาพด้านไฟฟ้าพลังน้ำสูงและเป็นหนึ่งในท็อป 5 ของโลก ด้วยแม่น้ำขนาดใหญ่หลายสายและพื้นที่กว้างใหญ่
แม้จะยังพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก แต่รัสเซียก็มีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนมาก
จุดเด่น
- แหล่งน้ำขนาดใหญ่สำหรับไฟฟ้าพลังน้ำ
- ศักยภาพพลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่ง
- ทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย
อันดับ 7. นอร์เวย์ – แชมป์ไฟฟ้าพลังน้ำ
นอร์เวย์เป็นประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสูงถึง 96% โดยส่วนใหญ่มาจากไฟฟ้าพลังน้ำ
ด้วยภูมิประเทศที่เป็นฟยอร์ดและน้ำตกมากมาย นอร์เวย์จึงสามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้เกือบ 100%
จุดเด่น
- ผลิตไฟฟ้า 96% จากพลังงานหมุนเวียน
- เทคโนโลยีไฟฟ้าพลังน้ำขั้นสูง
- พลังงานลมนอกชายฝั่งที่เติบโตเร็ว
อันดับ 8. เยอรมนี – ผู้นำยุโรป
เยอรมนีเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนในยุโรป โดยเฉพาะพลังงานลมและแสงอาทิตย์ มีนโยบาย Energiewende ที่มุ่งเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100%
จุดเด่น
- นโยบาย Energiewende ที่ก้าวหน้า
- เทคโนโลยีพลังงานลมและแสงอาทิตย์ชั้นนำ
- การสนับสนุนจากประชาชนและภาคเอกชน
อันดับ 9. ญี่ปุ่น – นวัตกรรมและประสิทธิภาพ
ญี่ปุ่นมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมนอกชายฝั่ง
จุดเด่น
- เทคโนโลยีแผงโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูง
- พลังงานลมนอกชายฝั่งแบบลอยน้ำ
- การวิจัยพัฒนาที่ก้าวหน้า
อันดับ 10. ออสเตรเลีย – ศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด
ออสเตรเลียมีศักยภาพด้านพลังงานแสงอาทิตย์และลมที่สูงมาก ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่และสภาพอากาศที่เหมาะสม
จุดเด่น
- ศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดในโลก
- พื้นที่กว้างใหญ่สำหรับฟาร์มพลังงาน
- การลงทุนขนาดใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน
🌍 แนวโน้มและสถิติที่น่าสนใจ
องค์ประกอบของพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก
- ไฟฟ้าพลังน้ำ: 47%
- พลังงานลม: 26%
- พลังงานแสงอาทิตย์: 18%
- พลังงานชีวมวล: 8%
- พลังงานใต้พิภพ: 1%
การลงทุน การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกใกล้เคียง 500 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
เป้าหมายอนาคต คาดการณ์ว่าสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นจาก 30% ในปี 2023 เป็น 46% ในปี 2030

ส่วน 5 ประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดในโลก
ในขณะที่เราชื่นชมความสำเร็จของประเทศที่นำหน้าด้านพลังงานหมุนเวียน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าประเทศใดที่ยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง ข้อมูลนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมความท้าทายและโอกาสในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
🏭 อันดับ 1 จีน – ความขัดแย้งแห่งการพัฒนา
จีนปล่อยก๊าซ CO2 สูงถึง 11,903 ล้านเมตริกตัน ในปี 2023 และ คิดเป็น 35% ของการปล่อยก๊าซ CO2 ทั่วโลก ถึงแม้จะเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน แต่จีนยังคงพึ่งพาถ่านหินในการผลิตพลังงานถึง 58%
ความขัดแย้ง: จีนเป็นทั้งผู้นำพลังงานหมุนเวียนและผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดพร้อมกัน
อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา – ปริมาณที่ลดลงแต่ยังสูง
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก แม้ว่า การปล่อย CO2 รายปีของสหรัฐฯ ได้ลดลงตั้งแต่ปี 2010 แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ข้อสังเกต: การปล่อยก๊าซต่อหัวของสหรัฐฯ ยังคงสูงกว่าจีนมาก
อันดับ 3 อินเดีย – การเติบโตที่มาพร้อมความท้าทาย
อินเดียเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับ 3 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความหวัง: อินเดียมีเป้าหมายพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอย่างก้าวหน้า
อันดับ 4 รัสเซีย – ผู้ส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิล
รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด เนื่องจากเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก
อันดับ 5 ญี่ปุ่น – ความท้าทายหลังฟุกุชิมะ
ญี่ปุ่นเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ปล่อยก๊าซ CO2 สูงสุดในโลก โดยเฉพาะหลังจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ทำให้ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น

📊 ตัวเลขสำคัญด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- การปล่อยก๊าซ CO2 จากพลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.1% ในปี 2023 ถึงระดับสูงสุดใหม่ที่ 37.4 พันล้านตัน
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกในปี 2023 อยู่ที่ 53.0 Gt CO2eq เพิ่มขึ้น 1.9% จากปี 2022
- การปล่อยก๊าซจากถ่านหินคิดเป็นมากกว่า 65% ของการเพิ่มขึ้นในปี 2023
🌡️ ความแตกต่างระหว่างการปล่อยก๊าซรวมและการปล่อยก๊าซต่อหัว
การปล่อยก๊าซต่อหัว (2023)
- สหรัฐอเมริกา: 17.61 ตัน CO2eq ต่อคน
- จีน: 11.11 ตัน CO2eq ต่อคน
- สหภาพยุโรป: 7.26 ตัน CO2eq ต่อคน
ข้อคิด แม้จีนจะปล่อยก๊าซรวมสูงสุด แต่การปล่อยก๊าซต่อหัวยังต่ำกว่าสหรัฐฯ มาก
🔮 บทสรุป อนาคตพลังงานสะอาด
10 ประเทศเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในการผลิตพลังงานหมุนเวียน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
การแข่งขันในด้านพลังงานหมุนเวียนไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นเรื่องของความมั่นคงทางพลังงาน การสร้างงาน และการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและต้นทุนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อนาคตของพลังงานหมุนเวียนจึงดูสดใสกว่าที่เคย และเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้
อ้างอิง
https://www.iea.org/reports/renewables-2024
https://ember-energy.org/app/uploads/2024/05/Report-Global-Electricity-Review-2024.pdf
https://www.epa.gov/ghgemissions/global-greenhouse-gas-overview
https://ourworldindata.org/co2-emissions
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
เจาะอันดับ 10 ประเทศอาเซียน ใครผลิต ‘พลังงานสะอาด’ และลดการปล่อย ‘ก๊าซเรือนกระจก’ ได้มากที่สุด

