Food Waste หรือขยะอาหาร คือหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ร้านอาหารทั่วโลกกำลังเผชิญ และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อม ตัวเลขที่น่าตกใจจาก Food Waste Index Report 2021 เผยว่า ทั่วโลกมีขยะอาหารมากถึง 931 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบได้กับรถบรรทุกขนาด 40 ตันจำนวนมหาศาลถึง 23 ล้านคัน เรียงต่อกันได้รอบโลก!

ในฐานะผู้ประกอบการร้านอาหาร คุณมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งไม่เพียงช่วยโลกของเราเท่านั้น แต่ยังสามารถ
-
ประหยัดต้นทุน จากการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า
-
ลดค่าใช้จ่าย ในการจัดการขยะ
-
สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับแบรนด์ของคุณ
ESG Universe ขอนำเสนอ 10 วิธีจัดการ Food Waste ในร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและโลกของเราไปพร้อมกัน

ทำไมธุรกิจร้านอาหารต้องใส่ใจเรื่อง Food Waste?
ในยุคที่ความยั่งยืนกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก ธุรกิจร้านอาหารเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญกับความท้าทายในการจัดการ “Food Waste” หรือขยะอาหารที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินธุรกิจ
ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า อาหารกว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั่วโลกถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความสูญเสียมหาศาลถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารเองเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิด Food Waste ที่สำคัญ
แต่ปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนและผลกำไรของร้านอาหารอีกด้วย การจัดการ Food Waste อย่างมีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่เพียงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ชาญฉลาด
มาเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในร้านอาหารของเรา ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิดกันดีกว่า

- จัดโปรโมชั่นลดราคาอาหารช่วงใกล้เวลาปิดร้าน
- จัดทำโปรโมชั่น “Happy Hour” 1-2 ชั่วโมงก่อนร้านปิด ลดราคา 30-50%
- ใช้แอพพลิเคชั่นอย่าง Too Good To Go เพื่อขายอาหารที่เหลือในราคาพิเศษ
- สร้างระบบสมาชิกที่ได้รับแจ้งเตือนเมื่อมีอาหารเหลือในราคาพิเศษ
- ออกแบบเมนูแบบหลากหลายขนาดตามความต้องการของลูกค้า
- เพิ่มตัวเลือกขนาดอาหาร S, M, L ให้ลูกค้าเลือกตามความหิว
- จัดทำเมนู Half Size สำหรับลูกค้าที่ทานน้อยในราคาที่เหมาะสม
- เสนอเมนูที่สามารถแบ่งปันกันทาน (Sharing Plate) สำหรับกลุ่มลูกค้า
- แปรรูปวัตถุดิบคงเหลือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
- แปรรูปผักผลไม้ที่ใกล้หมดอายุเป็นน้ำผักผลไม้สกัดเย็น
- ทำซอสหรือน้ำจิ้มจากวัตถุดิบเหลือใช้ที่ยังมีคุณภาพดี
- สร้างเมนูพิเศษประจำวันจากวัตถุดิบที่มีในสต๊อกมากเกินไป
- แปรรูปเศษอาหารเป็นน้ำหมักชีวภาพ
- นำเศษผัก ผลไม้ และอาหารทั่วไปมาหมักร่วมกับกากน้ำตาล
- ใช้น้ำหมักชีวภาพที่ได้เป็นน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปในร้าน
- นำไปใช้ในสวนครัวของร้านเพื่อบำรุงพืชผักและไล่แมลง


- แปรรูปกากกาแฟเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
- ทำสครับขัดผิวจากกากกาแฟสำหรับพนักงานใช้หรือเป็นของที่ระลึกสำหรับลูกค้า
- ใช้กากกาแฟเป็นส่วนผสมในเมนูพิเศษ เช่น คุกกี้กาแฟ หรือไอศกรีมกาแฟ
- ทำเป็นก้อนดับกลิ่นในตู้เย็นเก็บวัตถุดิบหรือห้องน้ำของร้าน
- พัฒนาระบบบริหารจัดการสต๊อกด้วยเทคโนโลยี
- ใช้ซอฟต์แวร์บริหารสต๊อกที่คำนวณปริมาณวัตถุดิบตามยอดขาย
- วางแผนรายการสั่งซื้อวัตถุดิบตามฤดูกาลและความนิยมของลูกค้า
- กำหนด First In First Out (FIFO) อย่างเคร่งครัดเพื่อลดการเน่าเสีย

- นำเศษผักที่เหลือ มาปลูกใหม่
- นำโคนผัก เช่น ผักกาดขาว ผักคะน้า ต้นหอม ไปเพาะให้งอกใหม่
- สร้างมุม “สวนครัวรีไซเคิล” ให้เป็นจุดเด่นของร้าน
- ใช้ผักที่ปลูกเองเป็นเครื่องตกแต่งจานหรือเป็นวัตถุดิบในเมนูพิเศษ
- เปลี่ยนเศษอาหารเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
- ตั้งระบบคัดแยกเศษอาหารโดยเฉพาะ แยกประเภทเศษอาหารที่ย่อยสลายได้
- ลงทุนเครื่องทำปุ๋ยหมักที่เหมาะกับขนาดร้าน
- สร้างจุดขายพิเศษโดยการแจกปุ๋ยหมักให้ลูกค้าที่สนใจนำไปปลูกต้นไม้ที่บ้าน
- แปลงเศษอาหารเป็นพลังงานทดแทน
- ติดตั้งเครื่องผลิตก๊าซชีวภาพจากเศษอาหาร (Biogas Digester)
- นำก๊าซชีวภาพที่ได้มาใช้ในการหุงต้มบางส่วนในร้าน
- สื่อสารเรื่องการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ลูกค้าทราบเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี


- บริจาคอาหารคุณภาพดีแก่ผู้ขาดแคลน
- สร้างเครือข่ายกับองค์กรการกุศลในพื้นที่เพื่อบริจาคอาหาร
- ออกแบบเมนูพิเศษที่รายได้ส่วนหนึ่งนำไปช่วยเหลือผู้ขาดแคลน
- เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในโครงการบริจาคอาหาร

การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิผลในร้านอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม การลดต้นทุน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เจ้าของร้านอาหารสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนอนาคตที่ยั่งยืนได้ด้วยการเน้นที่การลดการใช้ การใช้ซ้ำ การรีไซเคิล และการทำปุ๋ยหมัก
เราจะเห็นได้ว่าเรื่องเล็ก ๆ สิ่งที่เรากินเหลือ รวมไปถึงวัตถุดิบที่เหลือจากกระบวนการปรุงอาหารในครัว กลายเป็นปัญหาระดับโลก เพราะอาหารมีเวลาเก็บรักษาสั้นมาก และกลายมาเป็นขยะได้ทุก ๆ วัน ดังนั้นหากเราช่วยกันลด แยกประเภท และจัดการขยะอาหารอย่างเหมาะสม ย่อมส่งผลดีต่อโลกอย่างยั่งยืน
สิ่งสำคัญ ต้องจำไว้ว่า ความพยายามทุกอย่างนับเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและผลกำไรของธุรกิจร้านอาหารของเรา เริ่มนำแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการขยะเหล่านี้ไปใช้ตั้งแต่วันนี้เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจเราในระยะยาว
อ้างอิง
https://foodstory.co/2023/08/17/food-waste-management/
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
