รัฐบาลไทยกำลังเร่งดำเนินการลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน โดยล่าสุดมีความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการปรับ ‘ลดค่าไฟฟ้า’ สำหรับงวดเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2568 ลงเหลือไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท โดยไม่มีการอุดหนุนงบประมาณจากภาครัฐ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเป้าหมายการปรับลดค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย โดยไม่ต้องใช้งบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐ โดยมอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามเป้าหมาย

แนวทางการลดค่าไฟฟ้า
รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ 3 ประเด็นสำคัญภายใน 45 วัน ได้แก่
- ปรับปรุงสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แก้ไขปัญหาสัญญาที่เกี่ยวข้องกับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) และการสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (FiT) รวมถึงแก้ไขเงื่อนไขสัญญาที่ไม่มีวันสิ้นสุด
- แก้ปัญหาค่าความพร้อมจ่าย ปรับปรุงเงื่อนไขค่าความพร้อมจ่าย (AP) และค่าพลังงาน (EP) ในสัญญากับโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ที่ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือรัฐเสียเปรียบ
- ปรับปรุงระบบควบคุมไฟฟ้า แก้ไขข้อจำกัดในสัญญาที่ทำให้ศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้าไม่สามารถบริหารการผลิตให้มีต้นทุนต่ำลงได้
นอกจากนี้ ยังมีแผนศึกษาการปรับโครงสร้างระบบ Pool Gas เพื่อลดราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะต้องดำเนินการให้ทันงวดค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568
ความคืบหน้าล่าสุด
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้จัดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการลดค่าไฟฟ้า โดยจากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” กับแหล่งข่าวด้านพลังงานพบว่า กกพ. น่าจะสามารถหาแนวทางลดค่าไฟให้เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยได้ตามเป้าหมายที่ ครม. กำหนด
หนึ่งในมาตรการที่อาจนำมาใช้คือการยืดระยะเวลาชำระหนี้ของ กฟผ. ที่ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 70,000 ล้านบาท รวมถึงการใช้หลากหลายแนวทางร่วมกัน

ความท้าทายและความเป็นไปได้
การลดค่าไฟฟ้าเป็นนโยบายที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและเงื่อนไขหลายประการ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ด้วยระยะเวลาที่เหลือน้อยกว่า 7 วันก่อนเข้าสู่เดือนพฤษภาคม การประกาศอัตราค่าไฟฟ้าใหม่จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนกำลังจับตามอง ว่าจะสามารถลดเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยได้จริงตามเป้าหมายของรัฐบาลหรือไม่
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศอย่างเป็นทางการจาก กกพ. ซึ่งจะต้องแจ้งล่วงหน้าให้ประชาชนรับทราบก่อนเริ่มใช้อัตราใหม่ในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 นี้
อ้างอิง
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
https://kc.dede.go.th/search.aspx?p=%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2&t=A
https://www.thansettakij.com/economy/energy/625793
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
สหรัฐฯ เดือด! “ถล่ม” ภาษีโซลาร์เซลล์ไทย 375% กระทบส่งออกเฉียดแสนล้าน สะเทือนพลังงานสะอาดทั่วโลก
