จากความหวังสู่ความเป็นจริง! 10 ข้อควรติดตาม จากการประชุม COP28 ถึง COP29 เส้นทางลดโลกร้อนอย่างยั่งยืน

จากความหวังสู่ความเป็นจริง! 10 ข้อควรติดตาม จากการประชุม COP28 ถึง COP29 เส้นทางลดโลกร้อนอย่างยั่งยืน

โลกเรากำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การประชุม COP (Conference of the Parties) จึงเป็นเวทีสำคัญระดับโลกที่นำผู้นำจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน จาก COP28 ที่ดูไบสู่ COP29 ที่บากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เราได้เห็นพัฒนาการสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ มาดูกัน 10 ประเด็นสำคัญที่โลกต้องจับตามอง!

 

 

  1. การยกระดับ NDCs – เป้าหมายอุณหภูมิโลกไม่เกิน 5 องศา

 

หลังจาก COP28 ประเทศต่างๆ มีพันธกิจที่จะต้องยกระดับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของตนเอง หรือที่เรียกว่า Nationally Determined Contributions (NDCs) ให้มีความทะเยอทะยานมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงอย่างจีน สหรัฐฯ อินเดีย และสหภาพยุโรป การยกระดับ NDCs ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความจริงจังของแต่ละประเทศในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

ในปี 2025 นี้ ทุกประเทศจะต้องส่ง NDCs ฉบับปรับปรุงที่แสดงให้เห็นถึงแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2035 ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส

 

 

  1. การเงินสีเขียว – เงินทุนมหาศาลที่โลกต้องการ

 

การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำต้องใช้เงินทุนมหาศาล การประชุม COP28 ได้เห็นถึงความพยายามในการระดมทุนผ่านกองทุน Loss and Damage ที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว พลังงานหมุนเวียน และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกต้องการการลงทุนนับล้านล้านดอลลาร์

COP29 จะเป็นการทดสอบที่แท้จริงว่าประเทศพัฒนาแล้วจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการจัดหาเงินทุนให้กับประเทศกำลังพัฒนาได้หรือไม่ และนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ เช่น พันธบัตรสีเขียว การซื้อขายคาร์บอนเครดิต จะได้รับการผลักดันอย่างจริงจังหรือไม่

 

 

  1. การเปลี่ยนผ่านพลังงาน – ลาก่อนเชื้อเพลิงฟอสซิล

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวใจของการบรรลุเป้าหมาย Net Zero คือการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ข้อตกลงจาก COP28 ได้เรียกร้องให้มีการ “เปลี่ยนผ่านออกจาก” (Transition away from) เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประชุม COP ที่ภาษาเช่นนี้ถูกรวมไว้ในข้อตกลงสุดท้าย

ในช่วง COP28 สู่ COP29 เราจะเห็นการเร่งตัวของการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานชีวมวล รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน และระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ที่สามารถรองรับพลังงานหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

  1. การปฏิวัติอุตสาหกรรม – คาร์บอนต่ำคือคำตอบ

 

ภาคอุตสาหกรรมคือหนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนัก เช่น เหล็ก ซีเมนต์ และเคมีภัณฑ์ การเปลี่ยนผ่านสู่กระบวนการผลิตที่มีคาร์บอนต่ำกำลังเป็นประเด็นร้อนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization, and Storage: CCUS) กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ขณะที่การใช้ไฮโดรเจนสีเขียวในกระบวนการผลิตเหล็กและการพัฒนาซีเมนต์คาร์บอนต่ำก็เป็นอีกทางเลือกที่กำลังได้รับการพัฒนา การลงทุนในนวัตกรรมเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero

 

 

  1. การออกแบบเมืองยั่งยืน – เมืองแห่งอนาคต

 

ในปี 2050 ประชากรโลกกว่า 68% จะอาศัยอยู่ในเขตเมือง การออกแบบเมืองให้ยั่งยืนจึงเป็นประเด็นสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่การวางผังเมืองที่ลดการใช้รถยนต์ การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน

การพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำกำลังเป็นเทรนด์ทั่วโลก อย่างเช่น Masdar City ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ Songdo ในเกาหลีใต้ ที่ถูกออกแบบให้มีการปล่อยคาร์บอนต่ำตั้งแต่เริ่มต้น การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างเมืองต่างๆ จะเป็นประเด็นสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero

 

 

  1. ความหลากหลายทางชีวภาพ – คู่ขนานกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

 

วิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพและวิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน การฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยเฉพาะป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนตามธรรมชาติ จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero

การริเริ่มโครงการ “Nature-based Solutions” หรือแนวทางแก้ปัญหาโดยอิงธรรมชาติ เช่น การปลูกป่า การฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยดูดซับคาร์บอนแล้ว ยังเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและเพิ่มความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย

 

 

  1. เทคโนโลยีคาร์บอนเนกาทีฟ – ดูดซับมากกว่าปล่อย

 

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero เทคโนโลยีคาร์บอนเนกาทีฟ (Carbon Negative Technologies) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแค่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ

ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Direct Air Capture (DAC) ที่สามารถดักจับคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงจากอากาศ หรือ Bio-Energy with Carbon Capture and Storage (BECCS) ที่ใช้พลังงานชีวมวลร่วมกับการดักจับและกักเก็บคาร์บอน การลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในระยะยาว

 

 

  1. การปรับตัวต่อภัยพิบัติ – เตรียมพร้อมรับมือ

แม้ว่าเราจะมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบางส่วนได้เกิดขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นในอนาคต การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น พายุรุนแรง น้ำท่วม ภัยแล้ง จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ประเทศที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กและประเทศกำลังพัฒนา จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยีและการเงินเพื่อพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ และการวางแผนอพยพในกรณีฉุกเฉิน

 

 

  1. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค – อำนาจของการเลือก

 

การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของรัฐบาลและภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนทั่วไปด้วย ตั้งแต่การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไปจนถึงการเลือกใช้วิธีการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แนวคิด “การบริโภคอย่างยั่งยืน” กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การสร้างความตระหนักรู้และการให้ความรู้แก่ประชาชนจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้

 

 

  1. ความร่วมมือระหว่างประเทศ – ร่วมมือหรือล่มสลาย

 

ท้ายที่สุด การบรรลุเป้าหมาย Net Zero จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลกที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้โดยลำพัง

การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศพัฒนาแล้วไปยังประเทศกำลังพัฒนา การร่วมกันลงทุนในโครงการลดก๊าซเรือนกระจก และการแบ่งปันความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero

 

การประชุม COP29 ที่จะมีขึ้นในปลายปี 2025 ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน จะเป็นโอกาสสำคัญในการประเมินความคืบหน้าและกำหนดทิศทางการดำเนินงานในอนาคต ประเด็นทั้ง 10 ข้อข้างต้นจะเป็นหัวข้อหลักในการถกเถียงและหาแนวทางร่วมกัน

เส้นทางสู่ Net Zero อาจดูยาวไกลและท้าทาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เราสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ และสร้างโลกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพราะอนาคตของโลกอยู่ในมือของเราทุกคน!

 

อ้างอิง

 

ศูนย์องค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

https://hub.mnre.go.th/th/knowledge/detail/65923

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

https://www.dcce.go.th/3314/

https://www.thansettakij.com/climatecenter/net-zero/609014

https://www.thansettakij.com/blogs/columnist/editorial/607062

 

บทความอื่น ที่น่าสนใจ

Acamp แพลตฟอร์มคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์อัตโนมัติ ฝีมือคนไทย ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ SME ไทยรับมือภาษีคาร์บอน