เลขาธิการป.ป.ส.ย้ำ ‘ครอบครอง ขาย จ่ายแจกน้ำมันกัญชาถือเป็นความผิด’

เลขาธิการป.ป.ส.ย้ำ ‘ครอบครอง ขาย จ่ายแจกน้ำมันกัญชาถือเป็นความผิด’

ป.ป.ส. เตือนครอบครอง ขาย จ่ายแจกน้ำมันกัญชาถือเป็นความผิด พร้อมฝากประชาชน ระวังภัยมิจฉาชีพชักชวนลงทุนธุรกิจกัญชา

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า “พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 “กัญชา” ได้รับการผ่อนปรนให้ใช้เพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ยังคงควบคุมเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมายประเภท 5 การปลูก ผลิต ขาย ต้องได้รับอนุญาตในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ การแพทย์ การรักษาผู้ป่วย หรือการศึกษาวิจัย และต้องได้รับอนุญาตจาก เลขาธิการ อย. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ผู้ที่จะได้รับอนุญาตจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น กรณีที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวว่าวัดดังแห่งหนึ่ง ได้มีผู้ป่วยจำนวนมากเข้าขอรับน้ำมันกัญชาในรูปแบบแคปซูลนั้น ไม่สามารถกระทำได้ การยกเว้นโทษแก่ผู้ครอบครองเป็นเพียงการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีกัญชาในครอบครองอยู่เดิมเพื่อใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น สำหรับผู้ที่ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ จะต้องแจ้งการครอบครองที่สาธารณสุขจังหวัด และต้องแจ้งภายใน 90 วัน (เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์-19 พฤษภาคม 2562) โดยในกรณีดังกล่าว ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 6 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงขอฝากเตือนผู้ป่วยอย่าหลงเชื่อว่าสามารถซื้อ-ขาย กัญชาได้ทั่วไป หากต้องการใช้กัญชาเพื่อการบำบัดรักษาโรค ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ วินิจฉัย หรือสั่งใช้กัญชาหรือสารสกัดจากกัญชา เพื่อการบำบัดรักษาโรค ซึ่งจะได้กัญชาหรือสารสกัดที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ ซึ่งเป็นแพทย์ที่ได้รับ การฝึกอบรมและได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์ หรือกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก”

นอกจากนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ฝากเตือนประชาชนให้คิดอย่างรอบครอบ และระมัดระวังการถูกชักชวน ให้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา โดยอ้างว่าสามารถทำกำไรได้จำนวนมากนั้น ขอเรียนว่า “ผู้ที่จะได้รับอนุญาตปลูกหรือผลิตกัญชาได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งได้แก่ หน่วยงานของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ วิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตร ซึ่งจะต้องร่วมดำเนินการกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น และขณะนี้มีหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเพียง 2 หน่วยงาน คือ องค์การเภสัชกรรม และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เท่านั้น” และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. 1386 กด 3 หรือ อย.1556 กด 3 ในวันและเวลาราชการ