22 ก.พ.62 พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวชี้แจงถึงกรณีเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 ของกองทัพอากาศเครื่องยนต์ขัดข้องระหว่างนำคณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.สุราษฎร์ธานี และจ.กระบี่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยชี้แจงว่า เครื่องบิน C-130 เลขที่ 60109 ของกองทัพอากาศ ออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 โดยมีภารกิจเดินทางไปยังทาอากาศยานนานาชาติสมุย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งระหว่างบินขึ้นไปได้ 15 นาที นักบินได้ตรวจพบว่ารอบความเร็วของเครื่องยนต์ที่ 2 เกิดอาการสวิงส่ายไปส่ายมาเกินเกณฑ์ที่ไม่สามารถคอนโทรลเครื่องยนต์ได้จึงต้องดับเครื่องยนต์กลางอากาศ ตัดสินใจบินกลับมาลงที่ท่าอากาศยานทหาร 2 เพราะเกิดเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์
พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์กล่าวว่า มีคนถามกันมากว่าทำไมนักบินไม่นำเครื่องบินไปลงที่สนามบินเกาะสมุย และทำการแก้ไขเครื่องยนต์ เรื่องนี้ต้องขอชี้แจงว่ากองทัพอากาศไม่มีช่างเครื่องยนต์ที่สนามบินดังกล่าว รวมถึงนักบินไม่สามารถทำการบินด้วยเครื่องยนต์ 3 เครื่องที่เหลือจากสนามบินสมุยได้ เพราะไม่ปลอดภัยด้วยกฎระเบียบของสนามบินนานาชาติ
หากสภาพเครื่องยนต์ขาดความพร้อมห้ามไม่ให้ทำการบินขึ้นจากสนามโดยเด็ดขาดและเพื่อให้เกิดความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ของนักบินถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนปกติของการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต้องทำตามขั้นตอน คือ การบินกลับมาดอนเมืองเท่านั้น
พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า พล.อ.อ.ชัยพฤษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ.ได้รับรายการแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องชื่นชมนักบินที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกของผู้โดยสารระดับวีไอพี ดังนั้น เป็นการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการตัดสินใจของนักบินกองทัพอากาศ
ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าภารกิจของเครื่องบิน C-130 ลำดังกล่าวได้รับการตรวจเช็กบำรุงรักษาตามวงรอบตลอดเวลา แต่เนื่องจากมีอายุการใช้งานมาเกือบ 40 ปี เครื่องบินลำดังกล่าวบรรจุเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2523 จึงมีโอกาสที่จะเกิดเครื่องยนต์ขัดข้องได้
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ