ปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำธารน้ำแข็งอาร์กติกในแคนาดาละลาย เผยเป็นภาพยุคโบราณที่เคยถูกน้ำแข็งปกคลุมกว่า 4 หมื่นปี นักวิจัยคาดอีกไม่กี่ร้อยปีน้ำแข็งบริเวณนี้จะละลายหมด
สำนักข่าว CNN รายงานข่าวน่าสนใจ โดยอ้างถึงงานวิจัยของนายไซมอน แพนเดิลตัน นักศึกษาปริญญาเอก ที่ได้ร่วมกับทีมวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยระบุพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอ่าวฮัตตัน แคนดา ที่ตามปกติจะปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งมานานกว่า 4 หมื่นปี แต่ขณะนี้กำลังเกิดปรากฎการณ์ธารน้ำแข็งละลาย จนทำให้เห็นเป็นภาพพื้นที่ดังกล่าวในยุคโบราณ
พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในหมู่เกาะ Baffin และธารน้ำแข็งที่ละลายเริ่มเผยให้เห็นพื้นที่ที่เคยเป็นยุคโบราณมาก่อน หลังพื้นที่ดังกล่าวถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งมาช้านานถึง 4 หมื่นปี นอกจากนี้ ในรายงานของเขายังระบุอีกว่า ได้เดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเก็บตัวอย่างมอส และไลเคน จำนวน 48 ตัวอย่าง ในช่วงฤดูร้อนระหว่างปี 2553-2558 หลังธารน้ำแข็งบริเวณดังกล่าวเริ่มละลาย และผลจาการตรวจสอบตัวอย่างทำให้ทราบว่ากลุ่มมอส และไลเคน มีอายุมากว่า 4 หมื่นปีแล้ว ซึ่งมันปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากธารน้ำแข็งดังกล่าวได้ละลาย
สำนักข่าว CNN ระบุคำพูดของนายไซมอนอีกว่า สภาพอากาศในแถบอาร์กติกนั้นอุ่นขึ้นเร็วกว่าส่วนอื่นๆของโลก ถึง 2-3 เท่า ซึ่งจะส่งผลให้ธารน้ำแข็งในส่วนอื่นๆละลายเร็วขึ้นเช่นกัน และหากยังเป็นเช่นนี้ น้ำแข็งบนเกาะ Baffin จะละลายหมดในไม่กี่ศตวรรษข้างหน้า
อีกทั้ง องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซ่า ยังได้บันทึกภาพบริเวณดังกล่าวเอาไว้ และปรากฎเป็นภาพที่ธารน้ำแข็งได้ละลายไปบางส่วนทำให้เห็นภาพแผ่นดินที่ชัดเจนมากขึ้น