“สมเด็จฯ ฮุนเซ็น” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการขนานให้เป็น หนึ่งใน “บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย”
เพราะมีประวัติความเป็นมาที่ถือได้ว่าโลดโผนและโชกโชนที่สุดคนหนึ่ง
ในบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ของเอเชีย
“สมเด็จฯฮุนเซ็น” ถือกำเนิดในครอบครัวชาวนา
เชื้อสายจีนไหหลำ (แซ่ฮุน) ในจังหวัดกัมปงจาม
ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา เมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2495(แจ้ง 5 สิงหาคม) ช่วงชีวิตวัยเยาว์เป็นเด็กที่เรียนเก่ง แต่เนื่องจากความยากจนของครอบครัว
และสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นไม่เอื้ออำนวย “สมเด็จฯ
ฮุนเซ็น” ตัดสินใจละทิ้งการเรียน
แล้วกลายมาเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองแทน
หลัง เรียนชั้นประถมศึกษาที่บ้านเกิด ปี 2508 เข้ากรุงพนมเปญ เรียนต่อชั้นประถมปลายที่
โรงเรียนอินทราเทวี (Indra
Devi) ที่วัดนาควาน (Neakvoan) เป็นเด็กวัด ซึ่งต่อมาเขาได้รับปริญญาในระดับต่างๆ
จากหลากหลายสถาบันที่มีชื่อเสียงในหลายประเทศ
ในช่วงอันโกลาหลของแผ่นดินกัมพูชาที่แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย
ทั้งฝ่ายที่อนุรักษ์นิยม ฝ่ายเสรีนิยม และฝ่ายสังคมนิยม ภายใต้ของรัฐบาลลอนนอล
“สมเด็จฯฮุนเซ็น” เข้าร่วมการต่อสู้ กับเขมรแดงมีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลลอนนอลตั้งแต่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ
และต้องสูญเสียนัยน์ตาไปหนึ่งข้าง ทำให้ไม่ต้องเดาว่า
อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนอย่างไร แน่นอนว่า เขาเป็นคนที่ห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว มีอุดมการณ์สูง
และยังฉลาดหลักแหลม มีความสามารถที่เหมือนเป็นพรสวรรค์ คือชั้นเชิงในการ
“เจรจาต่อรอง” ในช่วงเวลาดังกล่าว สมรสครั้งแรกกับ “บุญ สมเอียง” ซึ่งเป็นการสมรสหมู่ผ่าน
“อังการ์” (องค์การ) โดยเขมรแดง มีบุตร 4 คน
นอกจากความวุ่นวายและความขัดแย้งระหว่างเขมรแดงด้วยกัน
ที่แปรเปลี่ยนไปเป็น “เขมรเฮงสัมริน” (นิยมเวียดนาม) และเขมรแดงสายพอลพต (นิยมจีน)
แล้ว ซึ่ง “สมเด็จฯ ฮุนเซ็น” ได้เคยก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในอายุเพียง 33
ปี และเป็น นายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดคนหนึ่งของโลก ต่อมาการเมืองในกัมพูชาในยุค
“เขมร 3 ฝ่ายก็กลายอีกจุดหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นให้กับ “สมเด็จฯ ฮุนเซ็น”
เพราะเขาผ่านเส้นทางอันยากลำบากและเต็มไปด้วยอันตรายนี้มาได้
แล้วก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของประเทศกัมพูชา
“สมเด็จฯฮุนเซ็น” สมรสอีกครั้งกับ “บุน รานี” มีบุตร 5 คน บนเก้าอี้หมายเลข
1 ของกัมพูชากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน
“สมเด็จฯ ฮุนเซน” ยังคงมีลักษณะโดดเด่น เช่นเดิม
คือเก่งฉกาจและยังคงมีพรสวรรค์ด้านการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ เด็ดเดี่ยวและห้าวหาญ แถมยังเป็นคนที่รักในกีฬากอล์ฟเป็นชีวิตจิตใจ
และแน่นอนว่าหลายๆ ครั้ง การเจรจาเกี่ยวกับผลประโยชน์ในด้านต่างๆ ของกัมพูชา
ก็เกิดจาก “สนามกอล์ฟ” นี่เอง
และทั้งหมดนี้คือชีเส้นทางชีวิตคร่าวๆ
ของ หนึ่งใน“บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย” ที่กว่า ทศวรรษ
ซึ่งห่างหายไปจากการเยือนประเทศไทย จากเหตุการณ์ทางการเมืองของทั้งสองประเทศ
และกรณีขัดแย้งเขาพระวิหาร และวันนี้ “สมเด็จฯ ฮุนเซน” กลับมาเยือนไทยอีกครั้ง
ในโอกาส 65 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชาพร้อมๆ กับ ความสำเร็จด้วยข้อตกลง 5 ฉบับ
ที่เป็นบทบาททางการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา
ที่มา :
Thaiquote