เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ใกล้คลอด จุดกระแสเลือกตั้งท้องถิ่นตามมาแน่นอน

เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ใกล้คลอด จุดกระแสเลือกตั้งท้องถิ่นตามมาแน่นอน


“พปชร.ไม่พร้อม การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เกิด” นักวิชาการดังสะท้อนเลือกตั้งท้องถิ่น แนะจับตา ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ จะขโมยซีนกลบกระแส ลบข้อครหารัฐไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน

 

โดย…..กองบรรณาธิการ ThaiQuote

สัปดาห์นี้กระแสการเรียกร้องท้องถิ่น ทั้งจากภาคประชาชน พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลเอง ยังคงดังออกมาเป็นระยะ วันนี้หลายคนมองว่ารัฐบาลกำลังหวงอำนาจที่มีอยู่ในมือ ทางออกเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เราจึงมาร่วมตามหาคำตอบกับ “วันวิชิต บุญโปร่ง” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

 

รัฐบาลหวงอำนาจ ไม่ยอมคืนให้แก่ประชาชน

นี่คือข้อครหาที่ทิ่มแทงใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ด้วยความที่รัฐบาลนี้สืบทอดการทำงานต่อจาก รัฐบาล คสช. ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์เอง เป็นนายกรัฐมนตรี จึงหนีไม่พ้นเรื่องการคืนอำนาจและประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประชาชน

“ด้วยช่วงเวลานี้ ผมมองว่า จากความกังวลที่ว่าโควิดจะกลับมาระบาดรอบ 2 จึงทำให้รัฐบาลต้องการรักษาสถานการณ์ความสงบเรียบร้อย โดยหากอนุญาตประชาชนร่วมทำกิจกรรมการเลือกตั้ง ทั้งการหาเสียง การเปิดเวทีปราศรัยที่ประชาชนมาร่วมรับฟังนโยบายในรูปแบบ New Normal ตามที่รัฐบาลคาดหวังไว้ จากความกังวลที่ว่าโควิดจะกลับมาระบาดรอบ 2 จึงพาลทำให้เกิดกระแสจากคนที่คิดต่าง ว่ารัฐบาลมีเจตนาแอบแฝงเพื่อให้ยังคงมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้

ขณะเดียวกันอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ความพร้อมเรื่องความเป็นเอกภาพในพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นได้มากน้อยแค่ไหน การเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารพรรคแกนนำรัฐบาล อย่าง พลังประชารัฐ จะมีผลอย่างสูงต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น หากกลุ่มสามมิตร ดัน “บิ๊กป้อม” ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคได้สำเร็จ แน่นอนว่าการกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมกำลัง ลงต่อสู้การเลือกตั้งท้องถิ่น โดยที่ผมมองว่าอาจจะยังไม่พร้อมในปีนี้” วันวิชิต กล่าว

 

 

รัฐบาล กับคำตอบที่ให้กับประชาชนถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น

อีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อสงสัยกับคำตอบของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดว่า ไม่มีงบจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวหา “ในปีนี้จะมีการเลือกตั้งสักอย่าง เกิดขึ้นแน่”

“วันวิชิต” กล่าวกับเราว่า สิ่งที่จะปลดแอกรัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐ จากข้อครหาไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจ ไม่จริงใจต่อการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง อย่างง่ายที่สุดคือการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งมีความพร้อมที่สุด แม้ว่าจะใช้งบประมาณมากที่สุด เพราะว่าสามารถขโมยความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ ให้โฟกัสมาที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นส่วนมาก

และทุกพรรคการเมืองจะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งในเวทีนี้เป็นแห่งแรก ด้วยเหตุผลว่าเราไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มาตั้งแต่รัฐบาลยุค คสช.เดิม นานแล้ว 6 ปี เวทีนี้จะเป็นสีสันหนึ่งที่คนจับตาทั้งประเทศ ช่วยคลายล็อกความกดดันของรัฐบาล นี่คือเหตุผลที่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายไปในระดับหนึ่ง” วันวิชิต ได้ชี้ให้เห็นทางลงของรัฐบาลกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า

 

ต่อจากเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. จะถึงคิวเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.

กับประเด็นที่ว่า ถัดจกการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ก็จะเป็นคิวของการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.ทั่วประเทศ หรือไม่นั้น “วันวิชิต” มองว่า ต้องจับตาไปที่ท่าทีของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กระทรวงหลักที่เป็นแม่งานของการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ยังคงสงวนท่าทีต่อเรื่องดังกล่าว

“การเลือกตั้ง อบจ. ผมคิดว่าจะตามมา โดยต้องมองว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะออกมาในรูปแบบไหน เป็นอย่างไร แน่นอนว่าจะต้องขึ้นอยู่กับท่าทีของมหาดไทยด้วย จะสังเกตว่า เมื่อพูดถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น “บิ๊กป๊อก” ยังคงสงวนท่าที ไม่ได้ให้ข้อมูล หรือความเห็นใดๆ เลย นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ” อ.วันวิชิต กล่าว

นอกจากนี้ อ.วันวิชิต ระบุอีกว่า ท่าทีดังกล่าวสามารถแปลความหมายได้ว่า สิ่งไหนที่ต้องเลี่ยงก็เลี่ยงไปก่อน แน่นอนว่าองค์ประกอบส่วนต่างๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคการเมืองซึ่งไม่ใช่แนวร่วมของรัฐบาล จะใช้แนวทางโมเดล การตำหนิ โจมตีวิจารณ์ถึงผลงานของรัฐบาล ที่เป็นข้อผิดพลาดการบริหารงานราชการต่างๆ บวกกับความรู้สึกที่ประชาชนทั่วไปเริ่มเบื่อ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี เรียกได้ว่า นอกจากการโฆษณาหาเสียงแล้ว ยังจะมีการหลอกด่ารัฐบาลไปในตัวด้วย จึงทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ ยังคงสงวนท่าที” วันวิชิตฉายภาพให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น

“ถึงจุดนี้ เราพอเห็นภาพของพี่น้อง 3 ป. ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ตามด้วย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ ที่ยังคงทำหน้าที่ปกป้อง และอุ้มชู ซึ่งกันและกัน ในขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน กระสันพร้อมกระโดดลงเล่นเวทีการเมืองระดับท้องถิ่นแล้ว แต่เมื่อพลังประชารัฐ ยังไม่พร้อม ก็เท่ากับว่ารัฐบาลยังคงไม่พร้อมที่จะจัดเลือกตั้งท้องถิ่น โดยวันใดที่รัฐบาลไฟเขียว นั่นหมายความว่า พลังประชารัฐ พร้อมแล้วที่จะสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างชัดเจน”

 

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ