รัฐ-เอกชน พร้อมแปลงร่าง “โรงแรม” สู่ “โรงพยาบาลสนาม” สู้โควิด-19

รัฐ-เอกชน พร้อมแปลงร่าง “โรงแรม” สู่ “โรงพยาบาลสนาม” สู้โควิด-19


โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote

จากกรณีที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค. กล่าวถึง จำนวนคนไทยในต่างประเทศที่จะขอเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งมีประมาณเกือบ 10,000 คน คำถามเรื่องของความพร้อมของสถานที่กักตัว จึงเกิดขึ้น

โฆษก ศบค. กล่าวถึงการรองรับทั้งเรื่องที่พักกักตัวของรัฐ มีศักยภาพรองรับคนไทยเดินทางกลับไปได้ประมาณ 200 คนต่อวันมันสวนทางกลับตัวเลขผู้ขอเดินทางกลับอยู่หลายเท่า

ที่ผ่านมาแนวคิดเรื่องของการเปลี่ยนโรงแรม เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือ ฮอสพิเทล (Hospitel) มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับที่ กระทรวงสาธารณสุขเอง ได้ยกระดับโครงการ “โรงแรมเพื่อชาติ” ขึ้น โดยร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย คัดสรรโรงแรมที่มาความสมัครใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พบว่าประมาณ 132 แห่งพร้อมเข้าร่วม โดยคาดว่าจะขยายจำนวนห้องพักฟื้นผู้ป่วยและผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังได้มากกว่า 16,000 ห้อง

ตัวเลข 16,000 นี้จึงดูเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ หากเปรียบเทียบกับตัวเลขของผู้ที่ขอกลับประเทศไทย

แต่ขณะนี้ก็พบว่า โรงแรมที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานพร้อมเป็นโรงแรมสนามของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีเพียง 2โรงแรมคือ โรงแรมปริ๊นซ์ตัน และโรงแรมพาลาซโซ เท่านั้น โดยโรงแรมปริ๊นซ์ตัน มีห้องพักจำนวน 270 ห้อง ขณะนี้รับผู้ป่วยพักฟื้นตามเกณฑ์กรมการแพทย์ประมาณกว่า 50 คน อยู่ห้องแยกทุกคน และโรงแรมพาลาซโซอีก 439 ห้อง

อย่าเพิ่งเข้าใจว่า โรงพยาบาลสนามเหล่านี้เป็นโรงพยาบาลสาขาที่ใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ตามมาตรฐานของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการนั้น มี 2 รูปแบบ คือ โรงพยาบาลสนามที่ใช้พักฟื้นผู้ป่วยโรคโควิด-19 (Hospitel) และโรงพยาบาลสนามที่ใช้สังเกตอาการของผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังฯ (Hotel Isolation) รวมทั้งเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการแยกกักตัวเองจากครอบครัว

สำหรับหลักเกณฑ์การประเมินโรงแรมมาเป็นโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นจำเป็นต้องผ่าน 2 ข้อ คือ คือ มีห้องพักมากกว่า 30 ห้อง และมีใบอนุญาตกิจการโรงแรม ก่อนที่จะเข้าสู่มาตรฐานการประเมินอีก 5 หมวดสำคัญ ได้แก่ 1.โครงสร้างอาคารและวิศวกรรม พื้นห้องพักไม่เป็นพหม ระบบปรับอากาศแยกส่วนไม่เป็นระบบท่อส่งลมร่วมกัน มีระบบโทรศัพท์สื่อสาร 2.บุคลากร พนักงานจะต้องผ่านการอบรมก่อน เช่น เจ้าหน้าที่ส่งอาหาร เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นต้น 3.มีวัสดุอุปกรณ์จำเป็น 4.ยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล

และ5.การจัดการสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรกับชุมชน เช่น มีระบบการจัดการขยะติดเชื้อ รวมถึงการกำจัดภาชนะบรรจุอาหารติดเชื้อ มีระบบการบำบัดน้ำเสียและความเป็นระบบปิด มีการเติมคลอรีนก่อนปล่อยสู่สาธารณะ มีระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลและมีระบบท่อน้ำทิ้งที่ได้มาตรฐาน มีระบบการจัดการซักล้างผ้าติดเชื้อ และมีแนวทางสร้างความเจ้าใจและการยอมรับจากชุมชนโดยรอบ

สอดคล้องกับข้อมูลของสมาคมโรงแรมไทย (THA) ที่กล่าวถึงโรงแรมที่จะเข้าร่วมโครงการนั้นจะต้องมีหลักเกณฑ์ ทั้งหมด 14 ข้อ ได้แก่ 1.‎ ห้องพักพื้นไม่ควรเป็นพรม มีระบบแอร์แยก 2.‎ มีจำนวน‎ ห้องพักมาก‎ และอยู่ใกล้‎ โรงพยาบาลในเมืองชั้นใน มีบริเวณเป็นสัดส่วน 3.‎ มีบ่อบำบัดน้ำเสีย 4.‎ ไม่ต้องทำความสะอาดห้องพัก 5.‎ อาหารวางหน้าห้องพัก 6.‎ ขยะ‎ วางหน้าห้องพัก 7.‎ ผ้าปูที่นอนจัดให้‎ แต่ผู้พักเปลี่ยนผ้าเอง 8.‎ จะมีรายได้ต่อผู้ป่วย 1รายต่อวัน‎ ไม่เกิน‎ 1000‎ บาทจากผู้ป่วย 1 คน ไม่รวมอาหาร

9. มีการันตีรายได้ขั้นต่ำ ระยะเวลา 4-5 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจ และคุ้มค่าความเสี่ยงทางธุรกิจ 10. ผู้เข้าพักเป็นผู้ป่วยไม่รุนแรง ช่วยเหลือตนเองได้ 11.สธ.ยินดีทำความสะอาด ฆ่าเชื้อให้ เมื่อเลิกโครงการ 12. มีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลผู้ป่วยตลอดระยะเวลาโครงการ 13. สธ.จัดการเรื่องระเบียบปฏิบัติทางราชการให้ 14. ขอความพร้อมเร็วที่สุด สามารถเริ่มโครงการได้ทันที และมีการทำประชาสัมพันธ์ให้

ด้านโรงแรมที่แจ้งความประสงค์เพื่อเข้าร่วมโครงการในขณะนี้ ยกตัวอย่างเช่น โรงแรม Grand Bella ซึ่งแจ้งความประสงค์ขอเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อเป็นสถานที่ในการควบคุมกักกันผู้ติดเชื้อในเมืองพัทยา โดยจะไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เนื่องจากโรงแรมยังมีตึกว่างที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาพัก จำนวน 140 ห้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้ามาสำรวจสถานที่ของทีมเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลว่ามีความพร้อมขนาดไหน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนที่เข้าพักและคนที่ดูแลและปฏิบัติงานในพื้นที่

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มของโรงแรมที่ได้เสนอตัวทั้งเป็นที่พักฟื้น และเป็นที่พักของแพทย์พยาบาลที่ทำงานเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

โรงแรม นาใต้ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ให้เข้าพักฟรี รองรับได้ถึง106ห้อง เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับผลกระทบและยังตกค้างในประเทศไทยจากวิกฤติโควิด-19ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ รวมถึงบุคลากรด่านหน้าในการต่อสู้วิกฤติครั้งนี้อย่างบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจและจุดคัดกรองป้องกันเชื้อไวรัส ซึ่งไม่สามารถพักอาศัยร่วมกับครอบครัวได้เพราะมีความเสี่ยงขณะทำงาน

โรงแรม โอโย 419 มาลีวัลย์ จอมเทียน พัทยา และโรงแรม ณ บางลำพู กรุงเทพฯ ให้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐในกรุงเทพฯและพัทยา เข้าพักโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันนี้ถึง30เม.ย.63 และพร้อมปรับใช้ที่พักเป็นศูนย์กักกันโรค และโรงพยาบาลภาคสนามอีกด้วย

บางโรงแรมทยอยการจัดแพ็กเกจ 14 -Days Stay Safe รองรับกลุ่มคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศหรือคนที่ต้องการสถานที่สำหรับกักตัวเองรอดูอาการ เช่น โรงแรมดิ ไอเดิล เรสซิเดนท์ ปทุมธานี เปิดบริการให้เช่ากักตัว 14 วัน ที่จะเป็นตึกพิเศษสำหรับผู้กักตัว ราคาเริ่มต้น 3.5 หมื่นบาท รวมห้องพัก บริการอาหารทุกมื้อที่ใช้ภาชนะใช้แล้วทิ้ง อินเตอร์เน็ตฟรี โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์สวีท ระยอง ก็จัดแพ็กเกจดังกล่าวเช่นกัน ขายราคาเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาท

อีกทั้งยังมีโครงการของกระทรวงสาธารณสุขที่เปิดรับสมัครให้โรงแรมเสนอตัวเป็นที่พักสำหรับผู้ป่วยเฝ้าระวังติดเชื้อโควิด -19 โดยได้รับรายได้ไม่เกิน 1 พันบาทต่อวันด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ