มาตรการทางการเงินที่รัฐให้ กับความจำเป็นที่คนไทยต้องให้ตอบ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

มาตรการทางการเงินที่รัฐให้ กับความจำเป็นที่คนไทยต้องให้ตอบ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”


เงิน 5,000 บาทที่รัฐบาลสนับสนุนให้กับกลุ่มแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว และอาชีพอิสระ จะเป็นหนทางหนึ่งเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของคนไทยในสถานการณ์ที่ต้องอาศัยความร่วมมือตามมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

จากการการแถลงของกระทรวงการคลัง นำโดยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงขั้นตอนการลงทะเบียนตามมาตรการดูและและเยียวยาประชาชน เราจึงได้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในหลากหลายมาตรการเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะสำเร็จไม่ได้หากไม่มีมาตรการด้านการเงิน

รัฐบาลจึงสนองเรื่องนี้ เงินจำนวน 5,000 บาท ให้กับแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว และผู้มีอาชีพอิสระ หมายรวมถึง ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 ที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขของระบบประกันสังคม กรณีถูกเลิกจ้างจากนายจ้าง พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร (ไม่อยู่ในกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการอื่นอยู่แล้ว) ผู้สูงอายุ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งหากตัวอย่างที่กล่าวว่านี้มีความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือเป็นผู้มีสิทธิที่จะรับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้

จำนวนเงิน 5,000 บาทต่อราย ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ตามเป้าหมายประมาณการจำนวน 3 ล้านคน หรือมากกว่านั้น ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณเริ่มต้นที่ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยรัฐขอความร่วมมือให้ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ จาก www.เราไม่ทิ้งกัน.com (ป้องกันคนเดินทางไปลงทะเบียนในจุดลงทะเบียนของธนาคาร 3 แห่ง คือ ธ.ออมสิน ธ.กรุงไทย และ ธ.ก.ส. ซึ่งจะต้องลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์เช่นกัน) แล้วโอนเงินเข้าบัญชีผู้ที่ได้รับสิทธิโดยตรง

ทำไมรัฐจึงต้องกำหนดมาตรการนี้ออกมา ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ

1.เป็นให้เป็นมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมถึงประชาชนคนไทยทุกคน หลังจากที่ได้ออกมาตรการช่วยเหลือคนไทยในส่วนอื่นๆแล้ว โดยเป็นการดูแลกลุ่มคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และเป็นกลุ่มคนที่มีความอ่อนไหวจากการถูกเลิกจ้าง หรือตกงาน มากที่สุด

2.เงินจำนวนดังกล่าว แม้อาจถูกมองว่าเป็นส่วนน้อย แต่มันเป็นจำนวนมาก สำหรับคนที่เขาไม่มีจริงๆ อย่างน้อยเงินส่วนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนเหล่านี้ในภาวะวิกฤติ ช่วยประคับประคองให้สามารถผ่านสถานการณ์ในห้วงเวลานี้ไปได้

3.เป็นมาตรการที่จะช่วยหนุนเสริมมาตรการอื่นๆของรัฐ ที่กระทบกับการดำเนินธุรกิจจำนวนไม่น้อย และการดำเนินชีวิตของประชาชน เช่น การออก พ.ร.ก.ฉุนเฉินฯ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายคนเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวหยุดชะงัก รถโดยสารต้องหยุดวิ่ง ธุรกิจบางส่วนปิดตัว การได้รับเงินจำนวนนี้ของคนกลุ่มหนึ่งจะช่วยให้เขาหยุดนิ่งอยู่กับบ้าน ไม่ต้องหางานทำใหม่ ไม่ต้องเดินทาง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

4.เม็ดเงินจำนวน 4.5หมื่นล้านบาท หรืออาจมากกว่านั้น เป็นผลพลอยได้ที่ยังทำให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนต่อไปได้ โดยจะเป็นเม็ดเงินที่ถูกอัดฉีดลงในระบบเศรษฐกิจ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจะใช้เงินจำนวนนี้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการจับจ่ายใช้สอย โดยเงินจะหมุนอยู่ในระบบ 5-6 รอบการใช้จ่าย ซึ่งทำให้เศรษฐกิจยังคงเดินหน้าต่อไปในห้วงเวลานี้

เม็ดเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทถือเป็นจำนวนเงินไม่น้อย ที่จะช่วยพยุงระบบเศรษฐกิจของประเทศ ประคับประคองอีกหลายชีวิตให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในตลอดระยะเวลา 3 เดือนนี้ไปได้

ส่วนความร่วมมือจากเรา ที่รัฐต้องการคืออะไร คงจะขอแค่เพียง หากไม่เดือดร้อนจริงก็อย่าไปใช้สิทธิ์แย่งลงทะเบียนกับคนจำนวนหนึ่งที่เขาเดือดร้อนเพื่อขอรับเงินจำนวนนี้เลย ส่วนผู้ที่ได้รับเงินจำนวนนี้ก็หวังว่าจะทำตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัด หากไม่จำเป็นต้องเดินทางก็อย่าเดินทาง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กันเถอะ

 

ข่าวที่น่าสนใจ