ฟังนายกฯ ในวันที่เชิญ “อาจารย์หมอ” มาหารอบ 2 ‘เบรนด์สตรอม’ ฝ่าโควิด-19

ฟังนายกฯ ในวันที่เชิญ “อาจารย์หมอ” มาหารอบ 2 ‘เบรนด์สตรอม’ ฝ่าโควิด-19


โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote

วันที่ 19 มีนาคม 2563 – หมอกมัวของโควิด-19 ยังดูเหมือนไม่จางหายไปจากเมืองไทย ในทางตรงกันข้าม มันกลับดูเหมือนว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไวรัสร้ายที่ชื่อโควิด-19 ในนาทีนี้ของวันที่ 19 มีนาคม 2563 ประเทศไทยพบว่ามีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 60 คนในวันเดียว และทำให้ยอดรวมทะยานไปถึง 272 คนไปแล้ว

ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อีกหมวกที่สวมคือ ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ก็เชิญบุคลากรทางการแพทย์ระดับอ๋องของเมืองไทยเข้าพบอีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบยังไม่ครบสัปดาห์ เพื่อให้มาถก มาระดมสมองร่วมกับทีมบริหารประเทศในแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พาชาติผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้โดยเร็ว

บนโต๊ะการประชุมรอบสองที่ “อาจารย์หมอ” ของเมืองไทยมาร่วมวงแก้ปัญหาประเทศกับนายกฯ จึงประกอบไปด้วย อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล น.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายจุฬา สุขมานพ ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

ทีมบริหารประเทศในรัฐบาล ประกอบไปด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สธ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ. รวมถึงผู้บริหารสธ. และตัวพล.อ.ประยุทธ์ เองที่ร่วมรับฟังทุกข้อเสนอ ทุกเงื่อนไขที่จะพาประเทศไทยให้พ้นโควิด-19

กว่า 2 ชั่วโมงกับอีกสิบกว่าชีวิตในห้องประชุม ท้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกมาพูดต่อสาธารณะถึงประเด็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยกับสถานการณ์ล่าสุด

“ผมยืนยันในตอนนี้ว่า ทุกพื้นที่ มันเสี่ยงต่อการติดโรค ไม่ว่าจะเป็นในงานแสดงคอนเสิร์ตที่เป็นข่าวไป เราต้องตามพวกเขาที่อยู่ในงานนั้นมาให้ครบ อย่างที่ผมบอกเอาไว้ว่ารัฐบาลขอนะ ขอไว้เลยอย่าจัดงานในช่วงนี้ ผมขอความร่วมมือด้วย ผมสั่งไปแล้วให้ปิดสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ถ้าต่างจังหวัดจะปิดด้วยก็ปิดได้เลย ถ้าครบกำหนด 14 วันประเมินกันแล้วยังไม่ปลอดภัยก็ต้องขอให้ปิดกันต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ใน 14 วันข้างหน้า อยากขอร้องข้าราชการในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัด ขอให้ “ประจำพื้นที่” อย่าขาดงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฏิบัติงานมาให้รัฐบาลรับรู้ทุกวัน ตนเองก็ติดตามทุกวัน สนามบินก็ต้องรายงานเข้ามา ตั้งแต่สนามบินต้นทางมาสู่สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก เพื่อให้รัฐบาลทราบและติดตาม และปรับมาตรการต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น วันนี้เรากำลังสกัดกั้นการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ ถึงบอกว่าการเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ โดยทุกคนที่เข้าประเทศไทยต้องมี ซึ่งเดิมเฉพาะ 4 ประเทศบวก 2 เขตปกครองพิเศษ แต่ทุกวันนี้ทุกประเทศที่เข้ามา ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ และติดตามด้วยแอพพลิเคชั่น

“ส่วนจะปิดพรหมแดนไหนหรือไม่ เป็นอำนาจของผู้ว่าฯในพื้นที่นั้นๆ ผมให้อำนาจไปแล้ว และให้รายงานผมมาด้วย หากผู้ว่าฯ ทำไม่ได้ ผมให้อำนาจไปแล้ว ผมก็จะย้ายผู้ว่าฯ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับนักข่าว และคนไทย

กระนั้นก็ตาม ในส่วนทีมอาจารย์หมอของเมืองไทยที่เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ อีกรอบล่าสุดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เอ่ยถึงรายละเอียดในวงประชุมรอบนี้ แต่ตอบกับนักข่าวว่า “การยกมาตรการไปสู่ระดับ 3 อาจจะต้องฟังหมอเหล่านี้ ซึ่งรัฐบาลก็จะบริหารประเทศตามข้อมูล และข้อแนะนำของทีมหมอ”

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ