ควันหลงขอนับคะแนนใหม่หรือลงมติใหม่

ควันหลงขอนับคะแนนใหม่หรือลงมติใหม่


จากเหตุการณ์ที่สภาล่มถึง 2 ครั้ง จนทำให้ “บิ๊กตู่”ต้องเรียกเช็กกำลังกันครั้งสุดท้ายเพื่อไม่ให้สภาล่มเป็นครั้งที่ 3 และเพื่อให้มติการจัดตั้งกรรมาธิการตรวจสอบการใช้อำนาจของคสช.ตกไป ทำให้เห็นถึงจุดอ่อนของข้อบังคับการประชุมม.85

นายไพศาล มังกรไชยา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ได้ ไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊ก Thaiquote เรื่อง“ควันหลงขอนับคะแนนใหม่หรือลงมติใหม่”โดยชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งและความเห็นต่างของพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในการแต่งตั้งกมธ.เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจมาตรา44 ของ คสช.นั้นต้องนำมานิยาม ตีความให้ชัดเจน เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในอนาคต ไม่เช่นนั้นแล้วหากเกิดสภาพรัฐบาลปริ่มน้ำก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก และทำให้ความน่าเชื่อถือของสภาเสื่อมลง(สามารถติดตามการไลฟ์สด มุมมองประเด็นดังของ คุณไพศาล มังกรไชยา ได้เป็นประจำที่ Thaiquote)

 

 

เป็นที่ทราบกันไปแล้วว่าฝั่งรัฐบาลชนะการลงมติการแต่งตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณามาตรา 44 ของคสช. การจะลงมติได้ต้องมีการนับองค์ประชุมก่อน รัฐบาลไประดมคนของฝั่งรัฐบาลมา อันที่จริงจำนวนตัวเลขของฝั่งรัฐบาลก็พอ แต่มีฝ่ายค้านเข้าร่วมแสดงตนด้วย มีพรรคเพื่อไทย 3 คน อนาคตใหม่ 3 คน เศรษฐกิจใหม่ 4คน ประชาชาติด้วย พวกนี้เขาเรียกว่าเป็นงูเห่า ควันหลงก็คืองูเห่ได้รับการแจกกล้วยมั้ย

แต่วันนี้จะมาพูดเรื่องที่ทางสภาจะต้องไปหาข้อยุติในข้อบังคับข้อนี้ เพราะจากการอ่านดูก็ไม่ได้มีการให้รายละเอียดที่ชัดเจน ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรให้มันชัดๆ ลงไป เป็นการเขียนแบบคลุมๆ กว้างๆ แต่พอจะมาใช้เป็นหลักปฏิบัติ มีหลายคนบอกว่าก่อนหน้านี้ก็มีปฏิบัติกันมา แต่อีกด้านหนึ่งก็ตั้งคำถามว่าแล้วมันถูกต้องตามเจตนารมณ์หรือเปล่า เพราะว่าเมื่อลงมติแล้ว ฝ่ายที่มีเสียงข้างน้อยในมติ ขอให้ยกมือนับคะแนนใหม่ ถามว่าเป็นไปตามข้อบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไหม ตอบว่าเป็น ขอได้ มีข้อที่ 85 ในการบังคับการประชุม แต่ประเด็นจะอยู่ที่ว่าจากสภาพที่ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านอยู่ในภาวะปิ่มน้ำคะแนนเสียงห่างกันไม่เกิน 4-5 ก็จะเกิดการขอให้นับใหม่กันตลอด เพราะข้อบังคับการประชุมระบุว่าหากคะแนนไม่เกิน 25 คะแนนสามารถขอนับใหม่ได้โดยมีผู้รับรอง

นอกจากนี้ยังมีข้อถกเถียงว่าการนับคะแนนใหม่จะหมายถึงการลงคะแนนเสียงใหม่ได้อย่างไร ที่ปฏิบัติมาคือการให้เข้ามาโหวตใหม่ ไปเอาสมาชิกในฝ่ายของตนมาเติม แต่เรื่องการนับคะแนนใหม่ โดยหลักการคือการนำคะแนนที่ลงมติในครั้งแรกมานับใหม่ มีทั้งที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย งดออกเสียงมารวมกัน ในการลงคะแนนเสียงของส.ส.ก็เหมือนกัน เพราะมีการเสียบบัตร แล้วปริ้นรายชื่อออกมาก็จะรู้ว่าชื่อไหนออกความเห็นอะไรไป จะลงคะแนนเสียงใหม่ ก็ต้องเป็นจำนวนเท่านั้น ไม่ใช่การไปเอามาเพิ่ม เพราะถ้าเอามาเพิ่มไม่ใช่การนับคะแนนใหม่ อันนี้ต้องเรียกว่าลงมติใหม่ ยิ่งในภาวะที่รัฐบาลและฝ่ายค้านชนะกันไม่ถึง 20 เสียงเพราะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะเจอกันได้ทุกรอบและสภาก็จะเกิดความปั่นป่วน ประชาชนเสื่อมศรัทธา ในภาพรวมก็จะเกิดความเสียหาย ก็จะเปิดช่องให้คนที่มีแนวคิดที่ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งหรือมีส.ส.มาโน้มน้าวให้ประชาชนคล้อยตาม เหมือนกับอย่างที่เคยเกิดมาหลายครั้งหลายหนในบ้านเมืองเรา

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จะอ้างว่าแต่ก่อนแต่ไรก็ทำกันมา ถ้าจะมองรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเมืองไทยไม่มีมาประมาณ 20 ปี ในอดีตการลงคะแนนเสียงของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านทิ้งกันห่างไม่มีข้อกังขา เพราะการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาเขารวมเสียง รัฐบาลจนชนะกันเด็ดขาด ไม่มีสูสีปริ่มน้ำเหมือนปัจจุบัน เพราะฉะนั้นการลงคะแนนจะห่างกันเกิน 25 คะแนน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ข้อบังคับ 85 มาใช้ แต่สำหรับรัฐบาลชุดนี้จะนำข้อ 85 มาใช้ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ แก้รัฐธรรมนูญ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านแพ้ก็ขอยกมือนับคะแนนใหม่

การทำงานของสภาก็จะลากกันยาวเพราะจะต้องขานเสียงกันให้เสียเวลา โอกาสในการที่จะผ่านไปยังกฎหมายอื่นก็ช้าลง เรื่องนี้ต้องเอากันให้ชัดเจน จะต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมการแก้ไขข้อบังคับข้อนี้กันโดยบทบาทของสภา ต้องทำให้ชัดเจนว่าต้องการเพียงนับคะแนนใหม่ของผู้ที่ได้ลงคะแนนอันเดิมไปแล้ว ให้ลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อ แต่จำนวนต้องเท่าเดิม หรือจะเลือกว่าถ้าเป็นเสียงข้างน้อยแล้วขอให้ประธานเปิดให้ลงมติใหม่อีกรอบ ต้องเขียนให้ชัดแล้วไประดมคนมาก็ไม่มีอะไรที่จะขัดข้อง คือต้องเขียนให้ชัดเจนว่าจะเอาเงื่อนไขไหน ถ้าเรามองในระยะยาวอย่าไปมองแค่ประเด็นงูเห่าได้รับการแจกกล้วย เอาเรื่องนี้ด้วย เพราะเชื่อว่าหากทำไม่ชัดเจนในอนาคตพรรคฝ่ายค้านก็จะใช้เงื่อนไขนี้ได้ เพราะพรรคฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เริ่มต้นแล้ว จะเกิดอุปสรรคและนำไปสู่ความขลุกขลักทางการเมือง โยงไปถึงการต่อรองทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย วุ่นวาย ไม่เป็นประโยชน์ เอาให้มันชัดดีกว่า ท่านประธานชวน หลีกภัยในฐานะเป็นประธานรัฐสภา ควรเป็นแกนนำในการผลักดันเรื่องนี้เลย หรือจะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญก็คิดอ่านกันมา อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องที่ทำๆ กันมา แล้วทำๆ กันต่อไป เพราะเมื่อเกิดคำถามกันแบบนี้ ตอบแล้วไม่เคลียร์ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

อนาคตใหม่ฟ้อง “เสรีพิศุทธ์”สอบ “ชวน”ไม่เป็นกลางปมม.44