เปิดโรดแมป ‘จัดการขยะพลาสติก’ ปี65 เลิกใช้ 100 %

เปิดโรดแมป ‘จัดการขยะพลาสติก’ ปี65 เลิกใช้ 100 %

จากกรณีการแถลงประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเห็นชอบร่างโรดแมปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.2561- 2573

โดยกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมลดใช้วัสดุพลาสติกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ทส.ได้จัดทำร่างโรดแมป ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายในการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ และเป็นการจัดการแบบบูรณาการของหน่วยงาน กำหนดทิศทาง การดำเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการกำจัดขยะพลาสติกของประเทศ

 

เป้าหมายภารกิจตามโรปแมป

สำหรับภารกิจตามโรดแมป แบ่งเป็นเป้าหมายที่ 1 ลด เลิกใช้พลาสติก และใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยทำการแบ่งเป็นสองช่วง ระยะแรก ภายในปี 2562 ให้เลิกใช้พลาสติก 3 ชนิด
ประกอบด้วย พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม พลาสติกผสมสารอ็อกโซ่ พลาสติกผสมไมโครบีด

ในระยะที่สอง จะยกเลิกให้ใช้ภายในปี 2565 อีก 4 ชนิด
ได้แก่ พลาสติกหูหิ้วที่มีความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร หลอดพลาสติก ที่มีข้อยกเว้นสำหรับใช้กับเด็ก คนชรา และผู้ป่วย และแก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

เป้าหมายที่ 2 คือการนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ร้อยละ 100 ภายในปี 2570 โดยจะมีการศึกษาและกำหนดเป้าหมายในส่วนที่จะนำกลับมาใช้ประโยชน์
ขณะที่ของเสียจะถูกนำไปกำจัดให้ถูกวิธีโดย แผนปฏิบัติการจะแบ่งเป็น 3 มาตรการ
1.มาตรการลดการเลิกขยะพลาสติก ณ แหล่งกำเนิด โดยจะมีการสนับสนุนการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2.มาตรการ ลด เลิกใช้พลาสติก ณ ขั้นตอนการบริโภค โดยขับเคลื่อนการลด เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
3.มาตรการจัดการขยะพลาสติกหลังการบริโภค โดยจะมีการส่งเสริม สนับสนุนการนำขยะพลาสติกเข้าสู่การนำกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์

กลไลการจัดการขยะตามแผนการ

สำหรับกลไกการจัดการนั้น มี 4 กลไก คือ
1.สร้างความรู้ ความเข้าใจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินการการ
2.รณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์
3.ใช้เครื่องมือและกลไกที่เหมาะสม เช่นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกภาคส่วน เร่งออกกฎหมาย 
4.การจัดทำฐานข้อมูลขยะพลาสติกของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ผลที่จะได้รับจากโรดแมปดังกล่าว คาดว่าจะลดปริมาณขยะพลาสติกได้ประมาณ 0.78 ล้านตันต่อปี และสามารถประหยัดงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยได้ประมาณ 3.9 พันล้านบาทต่อปี

ข่าวที่น่าสนใจ
ดึงกิจการ”เพาะปลูก ประมง ป่าไม้ เลี้ยงสัตว์”เข้าประกันสังคม