สถานการณ์ของการชุมนุมใน “ฮ่องกง” เมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลกยังคงเดินหน้าและเต็มไปด้วยความ “เปราะบาง” มากขึ้น มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลากว่า 5 เดือนนับตั้งแต่ “คนฮ่องกง” ตัดสินใจเดินเท้าสู่ท้องถนนประท้วงรัฐบาลของพวกเขา และแน่นอนว่ารัฐบาลของปักกิ่งเองด้วย ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นแบบต่อเนื่อง
แต่คำถามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย และขณะนี้ “โลก” ก็ยังไม่เห็นวี่แววของคำตอบ นั่นคือ เหตุการณ์ประท้วงที่รุนแรงในฮ่องกง มันจะจบลงเมื่อใด และแบบไหน?
สำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นสื่อของจีน เผยแพร่บทความที่น่าสนใจ และอาจจะตอบคำถามนี้ได้จากมุมมองการวิเคราะห์ของพวกเขา
ซินหัว เปิดฉากเอาไว้ว่า “การยุติความรุนแรงในฮ่องกง” เป็นเรื่องที่สำคัญ และไม่ควรจะรั้งรอ เพราะมันเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของเกาะแห่งนี้อย่างมาก
“ณ หลายเขตทั่วเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีน ผู้ก่อจลาจลได้กระทำการป่าเถื่อนและวางเพลิง ทำให้การขนส่งสาธารณะเป็นอัมพาต ทำลายทางรถไฟ ขว้างปาระเบิดขวดใส่รถไฟที่กำลังวิ่ง ทำร้ายร่างกายพลเรือนโดยไม่สนใจสิ่งใด หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนมหาวิทยาลัยให้กลายเป็นสมรภูมิสู้รบ
เหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) กลุ่มผู้ก่อจลาจลเผาทำลายรถตำรวจฮ่องกงด้วยระเบิดขวด และทำร้ายตำรวจ 2 นาย ด้วยลูกธนูและลูกบอลเหล็ก บริเวณนอกมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง (PolyU) ในย่านเกาลูน
ความวุ่นวายที่ทบทวี โดยมีต้นตอมาจากผู้ก่อจลาจล ส่งผลให้ฮ่องกงอยู่ในวังวนแห่งความหวาดกลัว ขณะที่ผู้คนท้องถิ่นถูกคุกคามความปลอดภัยส่วนบุคคล และถูกฉกฉวยสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ทำให้หลักนิติธรรมอันเป็นค่านิยมหลักของสังคมถูกทำลายอย่างหนักหน่วง
ณ การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศบริกส์ ครั้งที่ 11 ในกรุงบาซิเลียของบราซิล สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวย้ำว่าความรุนแรงที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในฮ่องกงเหยียบย่ำหลักนิติธรรมและระเบียบสังคมอย่างรุนแรง ทั้งขัดขวางความเจริญรุ่งเรืองและความมีเสถียรภาพของฮ่องกง รวมถึงท้าทายหัวใจสำคัญของหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
หากความรุนแรงไม่ถูกยับยั้งและหลักนิติธรรมไม่ถูกยึดถือ ชาวฮ่องกงจะไร้ซึ่งหลักประกันว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข การพัฒนาในอนาคตของฮ่องกงจะไม่มีวันเกิดขึ้น
แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ได้นำรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา โดยมุ่งมั่นทำให้สถานการณ์มีเสถียรภาพและปรับปรุงบรรยากาศทางสังคม ขณะเดียวกันตำรวจฮ่องกงปฏิบัติงานในพื้นที่แนวหน้าอย่างไม่เกรงกลัว มุ่งมั่นยับยั้งความรุนแรงและปราบปรามความวุ่นวาย
ขณะนี้ทุกฝ่ายในฮ่องกงควรสร้างฉันทามติเพื่อสนับสนุนแลมในการเป็นผู้นำรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รวมถึงตำรวจในการเอาผิดอาชญากรรมรุนแรงตามกฎหมาย เพื่อสนับสนุนองค์กรตุลาการฮ่องกงปฏิบัติหน้าที่ของตนและนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
บทบรรณาธิการที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี เมื่อวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ระบุว่าการต่อสู้กับความรุนแรงได้แปรเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ระหว่างการยืนหยัดและการต่อต้านหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” การต่อสู้ระหว่างการสนับสนุนและการละเมิดหลักนิติธรรม และการต่อสู้ระหว่างการปกป้องและการขัดขวางความเจริญรุ่งเรืองของฮ่องกง
มีเพียงการยุติความรุนแรงตามกฎหมายเท่านั้น ที่จะรับประกันว่าชาวฮ่องกงจะมีความผาสุข อำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์การพัฒนาของชาติจะได้รับการปกป้อง
ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน โชคชะตายังผูกโยงกับมาตุภูมิอย่างแนบแน่น รัฐบาลกลางและชาวจีน 1.4 พันล้านคนจะยังคงเป็นผู้สนับสนุนฮ่องกงและพร้อมช่วยจัดการกับความเสี่ยงและความท้าทาย”