โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (30 ก.ค.62) ถือเป็นนัดแรกภายหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา ประเด็นในวันนี้มีทั้งการแบ่งหน้าที่การทำงานของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีด้วยกันถึง 5 คน ที่จะต้องแบ่งการรับผิดชอบในแต่ละกระทรวง รวมไปถึงรัฐมนตรีช่วยแต่ละคนประจำกระทรวงที่จะไปรับการแบ่งภาระหน้าที่ตามความรับผิดชอบ โดยมีกระทรวงหลักที่มีรัฐมนตรีช่วย อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงศึกษาธิการ
นอกเหนือจากนั้น อีกตำแหน่งที่ต้องจับตามอง คือ ตำแหน่ง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ “โฆษกรัฐบาล” ที่ปรากฏชื่อของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวเต็ง อันดับ 1
สำหรับ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือ “อ.แหม่ม” เกิดในครอบครัวที่มีพี่น้อง 6 คน จึงพบเห็นความยากลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ แต่โชคดีที่พ่อแม่ของเธอ สนับสนุนเรื่องการศึกษาให้กับลูกทุกคนส่งเรียนจนกระทั่งจบการศึกษา และอ.แหม่มพกดีกรี ปริญญาตรี สถิติศาสตรบัณฑิต (คณิตศาสตร์ประยุกต์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะได้ทุนการศึกษาจากกพ. ให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท Master of Science (คณิตศาสตร์ประยุกต์) Georgia State University ประเทศสหรัฐอเมริกา Master of Business Administration (Applied Economics) University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ปริญญาเอก Doctor of Philosophy (Finance) University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อจบการศึกษาจึงเข้ารับตำแหน่งอาจารย์ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เป็นอาจารย์อยู่ถึง 15 ปี ก่อนจะทำผลงานทางวิชาการจนกระทั่งได้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์”
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ได้เคยกล่าวในการให้สัมภาษร์กับ ThaiQuote เอาไว้เมื่อครั้งเธอดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า “เมื่อคิดว่าวันนี้เรามีจุดสูงสุดที่ให้กับตัวเองแล้ว สิ่งที่ต่อไปคือการทำงานเพื่อสังคม ตอบแทนผู้มีพระคุณ ซึ่งก็คือประชาชน เพราะภาษีของประชาชนซึ่งเป็นที่มาของทุนการศึกษาได้เรียนจนทำให้เราได้มีวันนี้ จึงมีความมุ่งหวังว่าเราจะต้องทำตรงนี้ให้ดีที่สุด” นี่คือที่มาของการทิ้งตำแหน่งอาจารย์นิด้าโดยรับราชการมาถึง 23 ปี ก่อนที่จะมารับตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์) ดูแลโครงการ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”
“โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่แค่แจก แต่เราต้องคิดว่าจะต่อยอดช่วยอย่างไรเพื่อให้หลุดพ้นจากกับดับรายได้ที่ต่ำกว่าปีละ 30,000 บาทให้ได้ คุณจะรบกับใครก็ช่างแต่ดิฉันขอรบกับความยากจน ต้องยอมรับว่าความเหลื่อมล้ำทำอย่างไรมันไม่หมดไปได้ แต่เราจะต้องทำให้มันเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ก่อนที่จะลงสู่สนามการเมืองอย่างจริงจังในช่วงเดือนมกราคม 62 พร้อมกับ 4 รัฐมนตรีที่ลาออกมาตั้งพรรคพลังประชารัฐ โดยในระหว่างหาเสียง อ.แหม่ม ได้ร่วมลงพื้นที่เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชน รวมทั้งเป็น 1 ในทีมวางนโยบายของพรรค โดยมีมาตรการเด่น อย่างนโยบาย “มารดาประชารัฐ”
“นโยบายมารดาประชารัฐ ที่มาคือของการรับพฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงปัญหาประชากร ที่มีคุณแม่วัยใสไม่พร้อมมากขึ้น นโยบายนี้จึงมารองรับเพื่อให้เด็กที่เกิดจากกลุ่มนี้มีด้านการสาธารณสุขที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะต้องอิงกับสวัสดิการที่รัฐมีให้แล้ว ตามที่มีการสมทบทุนเด็กแรกเกิด” ดร.นฤมล กล่าวเอาไว้
อย่างไรก็ตาม การสรรหาโฆษกรัฐบาลนั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติจะต้องแปลงนโยบายของรัฐบาลมาสู่ประชาชนให้สามารถเข้าใจได้ง่าย รู้ความเคลื่อนไหวความคืบหน้าของการดำเนินโครงการเป็นอย่างดี และมีความรู้ที่จะสามารถนำเสนอด้วยวิธีที่เข้าใจได้ง่าย รวมทั้งบทบาทของการตอบโต้ หรือโต้แย้งข้อมูลผิดจากฝ่ายที่โจมตี นอกจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้ว “โฆษกรัฐบาล” จะต้องเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของหัวหน้ารัฐบาลอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากรัฐมนตรี อีกด้วย ซึ่งคงต้องคอยมาลุ้นกันว่าชื่อของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะเป็นรายชื่อที่ตอบโจทย์โดนใจ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
จากครอบครัวคนจน ….สู่เบื้องหลังบัตรสวัสดิการของรัฐ..เพื่อคนไทย