นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า อยากแนะนำให้ทุกคนหันมาสร้างความรักให้เกิดขึ้นระหว่างคนในครอบครัว ความรักระหว่างเพื่อน และความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกัน พร้อมทั้งบอกรักด้วยการกอด ซึ่งเป็นสัมผัสที่มีความพิเศษ ตามคำแนะนำของ เวอร์จิเนีย ซาเทียร์ นักจิตวิทยาครอบครัวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ชาวแคนาดา ที่พบว่าคนเราต้องการการกอดวันละ 4 ครั้ง เพื่อการดำรงชีวิต วันละ 8 ครั้ง เพื่อการดำเนินชีวิต และ 12 ครั้ง เพื่อจิตใจและการเจริญเติบโตของร่างกาย
นอกจากนี้ยังพบว่าการกอดสามารถเยียวยาผู้ป่วยได้ นอกเหนือจากการรักษาด้วยวิธีการและยาที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นการถ่ายทอดความรัก กำลังใจ ความอบอุ่น ความห่วงใยไปสู่ผู้ป่วย เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้นและมีกำลังใจสูงขึ้น
“ทั้งนี้ บุคคลที่ได้รับการกอดหรือกอดผู้อื่น จะทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ทำให้การลำเลียงของออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างทั่วถึงทำให้สดชื่น มีชีวิตชีวา และการกอดยังเป็นการกระตุ้นสัมผัสที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกายและจิตใจ ที่ช่วยให้ผู้ถูกกอดรู้สึกอบอุ่นและเป็นสุข ลดความเครียด สำหรับเด็กทารก การกอดมีส่วนช่วยกระตุ้นและเพิ่มอีคิวให้กับลูก การอุ้มกอดขณะให้นมช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสานสัมพันธ์ความรักได้อย่างมาก ซึ่งการกอดไม่ได้จำกัดขอบเขตเพียงกับเด็กหรือระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น แม้แต่ผู้สูงอายุก็ต้องการการโอบกอดด้วยความรักจากคนใกล้ชิด เพราะการกอดในผู้สูงอายุเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมความรู้สึกอ้างว้างภายในจิตใจได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้สูงอายุมีภาวะสุขภาพดีขึ้น มีความกระตือรือร้น บรรเทาความเจ็บป่วย ซึมเศร้า ความวิตกกังวล ทำให้ผู้สูงอายุต้องการที่จะมีชีวิตอยู่และรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น”รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าวในที่สุด