สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวชิ้นสำคัญของโลก โดยอ้างว่า สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ซึ่งโด่ดเด่นด้านความพยายามปัดเป่าวิกฤติระดับโลก กรณีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเหล่านักบวชคาทอลิก ทรงตรัสเมื่อวันที่ 5 ก.พ.2562 ระบุว่า พระองค์ทรงมีความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งเรื่องอื้อฉาวของบาทหลวงและบิชอปที่ชอบล่วงละเมิดทางเพศแม่ชีด้วย และบางส่วนในนั้นถึงขั้นใช้ผู้หญิงเป็นทาสบำเรอกาม
พระประมุขแห่งศาสนจักรคาทอลิก ทรงตรัสถึงเรื่องนี้ตอนที่ทรงกำลังประทับเครื่องบิน เดินทางกับจากอาบูดาบี และเป็นการตอบผู้สื่อข่าวคนหนึ่งซึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุล่วงละเมิดแม่ชีในศาสนจักรคาทอลิก ในบทความ ซึ่งตีพิมพ์ลงนิตยสารวาติกันรายเดือนฉบับหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ขบวนการรณรงค์ #MeToo ยุให้เหล่าแม่ชีช่วยกันออกมาแฉพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศด้วยเงื้้อมมือของพวกบาทหลวงและบิชอป ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว สหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชหญิงนานาชาติ ซึ่งเป็นตัวแทนของคณะนักบวชหญิงในศาสนจักรคาทอลิกโลกมากกว่า 500,00 คน ได้เรียกร้องให้สมาชิกแสดงความกล้าหาญก้าวออกมารายงานเหตถูกล่วงละเมิด
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้นำศาสนจักรคาทอลิก ทรงยอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก ว่า
“เป็นเรื่องจริง มีบาทหลวงและแม้แต่บิชอปก็ทำเรื่องนี้ ข้าพเจ้าคิดว่ายังคงกำลังเกิดขึ้นอยู่ และจะไม่หยุดเพียงเพราะเราเริ่มรับรู้เรื่องนี้แล้ว เราทำงานกันในเรื่องนี้มานาน มีการพักงานบาทหลวงบางส่วนเพราะเรื่องนี้” “โป๊ปกล่าว พร้อมระบุว่าวาติกันอยู่ในกระบวนการปิดสมณกระทรวงสตรีคริสต์แห่งหนึ่ง สืบเนื่องจากเหตุล่วงละเมิดทางเพศและคอรัปชัน แต่พระองค์ทรงไม่เปิดเผยชื่อสถานที่ดังกล่าว
โป๊ปฟรานซิสเผยว่า อดีตสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเคยยุบสมณกระทรวงสตรีคริสต์แห่งหนึ่ง หลังได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาในปี 2005 สืบเนื่องจากทาสเริ่มกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสมณกระทรวง แม้แต่บาทหลวงและผู้ก่อตั้งก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ผู้หญิงเป็นทาสบำเรอกาม
พระองค์ทรงไม่ได้พาดพิงถึงสมณกระทรวงดังกล่าว แต่โฆษกของวาติกันระบุว่ามันคือสมณกระทรวงแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเรียกบิช็อปจากทั่วโลกมาประชุมซัมมิตกันในช่วงปลายเดือนนี้ที่วาติกัน เพื่อหาทางตอบโต้อย่างเป็นอันหนึ่งเดียวกันต่อแนวทางปกป้องเด็กจากการถูกนักบวชคาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศ
เมื่อถูกถามว่าวาติกันจะใช้มาตรการแบบเดียวกันในการจัดการประเด็นล่วงละเมิดแม่ชีในศาสนจักรคาทอลิกด้วยหรือไม่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตอบว่า “ข้าพเจ้าต้องก้าวเดินไปข้างหน้า เรากำลังจัดการกับสิ่งนี้”
ทั้งนี้ ในคริสตจักรโรมันคาทอลิก “บาทหลวง” หมายถึงบุรุษที่ได้รับศีลอนุกรม (ศีลบวช) มีหน้าที่โปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ ชาวคาทอลิกถือว่าบาทหลวงเป็นตัวแทนของพระเยซูและอัครทูตของพระองค์ ผู้ที่เป็นบาทหลวงในนิกายนี้ในพิธีบวชต้องปฏิญาณตน 3 อย่างชั่วชีวิต คือ 1.เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา 2.ถือโสด 3.ดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย หากบาทหลวงนั้นสังกัดคณะนักบวชคาทอลิก จะต้องปฏิญาณเพิ่มอีก 1 ข้อ คือ ไม่ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินใด
ชาวคาทอลิกจะเรียกบาทหลวงว่า “คุณพ่อ” (Father) เพราะถือว่าเป็นบิดาทางฝ่ายจิตวิญญาณ ที่คอยแนะนำสั่งสอนและให้พรต่าง ๆ เพื่อความเจริญฝ่ายจิตวิญญาณ
ส่วน “บิชอป” หรือ “มุขนายก” ในนิกายคาทอลิกนั้น คือเป็นตำแหน่งที่สืบมาจากอัครทูตผู้ติดตามพระเยซูอย่างใกล้ชิดในสมัยที่พระองค์ยังคงดำรงพระชนม์ในโลกเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว มุขนายกทำหน้าที่เป็นประมุขคริสตจักรโรมันคาทอลิก เป็นหัวหน้าปกครองคณะบาทหลวง คณะนักบวชคาทอลิกชาย-หญิง และคริสต์ศาสนิกชนชาวคาทอลิกภายในเขตปกครองของตน
ผู้จะรับศีลอนุกรมเป็นมุขนายกจะต้องบวชเป็นบาทหลวงมาก่อน และต่อมาได้รับการแต่งตั้งจากพระสันตะปาปาโดยมีพิธีการอภิเษกเป็นมุขนายกซึ่งถือเป็นศีลอนุกรมขั้นสูงสุด
ที่มาข่าว : https://mgronline.com/around/detail/9620000013237
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ