กระทรวงอุตสาหกรรม วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 – นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อตรวจเยี่ยมการทำงาน โดยจะให้ผู้บริหารกระทรวงรายงานแผนงานว่าในช่วง 2-3 เดือนที่เหลือก่อนการเลือกตั้งมีแผนงานอะไรที่ต้องขับเคลื่อนเพื่อให้ทำงานได้ต่อเนื่องไม่ให้หยุดชะงัก
นอกจากนี้ ยังได้ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมการเพื่อต้อนรับแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ที่จะเดินทางสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีการลงนามในความร่วมมือเรื่องไซเบอร์พอร์ตในเมืองไทย
โดยในวันที่ 4 มี.ค.นี้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะจัดสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลนักลงทุนในธีม “Thailand Invesment Year…What’s Next?” คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้าร่วม 1,500-2,000 คน และในเดือน เม.ย.นี้ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (เจโทร) จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความร่วมมือการลงทุนระหว่างญี่ปุ่น-ไทย-จีน หลังจากที่จีนและญี่ปุ่นมีความร่วมมือในการออกไปลงทุนในประเทศที่สาม และไทยโดยเฉพาะอีอีซีเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ
ส่วนการเยือนประเทศญี่ปุ่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เชิญชวนนักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น บริษัท อัมรอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องมือแพทย์ และระบบอัตโนมัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างมองหาพื้นที่รองรับการย้ายฐานการผลิตจากจีน เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้า
นายสมคิด กล่าวว่า “สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้ คือเวียดนามมีการพัฒนาไปในทุกๆด้าน นักลงทุนทั่วโลกหันไปลงทุนที่เวียดนาม เพราะมีแรงงานมากและต้นทุนถูกกว่าไทย เค้ากำลังหายใจลดต้นคอเรา ถ้าเรายังไม่เอาจริงเอาจัง ไม่เกิน 3 ปีเวียดนามจะเอาทุกอย่างไปจากเรา แซงหน้าเราไปแน่นอน”
“ในขณะนี้มีกว่า 100 บริษัทที่จะย้ายฐานผลิตจากจีน หากประเทศไทยไม่ทำอะไรเลยนักลงทุนจะเลือกไปลงทุนประเทศอื่นแทน หากไม่รีบช่วงชิงในตอนนี้อาจจะเสียโอกาส เพราะต้องยอมรับว่าไทยต่อสู้ด้านค่าแรงกับเพื่อนบ้านไม่ได้” นายสมคิด กล่าวทิ้งท้าย