รมว.พลังงาน เล็งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันพิจารณาลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม หวังกระตุ้นการใช้เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังหารือเพื่อขอความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันทุกรายให้พิจารณาช่วยลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เกรดพรีเมียมซึ่งเป็นน้ำมันยูโร 5 เพื่อกระตุ้นการใช้เพื่อเป็นการช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ระยะเร่งด่วน โดยจะนำร่องในสถานีบริการน้ำมันของ บมจ.ปตท.และบางจาก
“กำลังหารือรายละเอียดที่จะขอความร่วมมือผู้ค้า ลดราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมที่ขณะนี้ราคาจะแพงกว่าดีเซลปกติเฉลี่ยประมาณ 3.60 บาทต่อลิตร ให้ลงมาอย่างน้อย 1-2 บาทต่อลิตร โดยคาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ พร้อมกันนี้ก็กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะลดปริมาณสำรองน้ำมันที่ปัจจุบันกำหนดสำรองน้ำมันดิบและสำเร็จรูปที่ปัจจุบันเรวมที่ 7% ของปริมาณการจำหน่ายเพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ค้ากรณีที่อาจจะต้องมีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปยูโร 5 เข้ามาระยะสั้น เพราะขณะนี้มีเพียงโรงกลั่น ปตท.และบางจากที่ผลิตได้” นายศิริกล่าว
อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 นั้นกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้มีการหารือและจะใช้เวลาในการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 ได้ทั้งหมดในระยะอีก 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งคงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปเร่งรัดเพราะขณะนี้ได้มีการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 จำหน่ายผ่านปั๊มน้ำมันเพื่อรองรับรถยนต์ขนาดใหญ ซึ่งจะเป็นมาตรการระยะยาวในการช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 แล้วยังจะเป็นการช่วยดูดซับปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ให้สมดุลในระยะยาวเพื่อยกระดับราคาปาล์มให้เกษตรกร
นายศิริกล่าวด้วยว่า การดูดซับน้ำมันปาล์มที่สต็อกสูงให้มาสู่ภาวะสมดุลระยะเร่งด่วน ดำเนินงานโดยนำน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะใช้ทั้งสิ้น 1.6 แสนตันในระยะ 3- 6 เดือน
“ล่าสุดราคาผลปาล์มสดก็เริ่มขยับมาสู่ระดับเป้าหมาย 3.04 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งหักค่าลานเทไปแล้ว 20 สตางค์ต่อ กก. เมื่อรวมกับบี 20 ที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีการใช้อีก 15 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 4 แสนตันต่อปีในระยะยาว ก็จะทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มสมดุลสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มให้เกษตรกรได้” รมว.พลังงาน กล่าว