“ศรราม น้ำเพชร”จากลิเกขวัญใจแม่ยก สู่ศรัทธาโปรยทานงานบวชเงินล้าน

“ศรราม น้ำเพชร”จากลิเกขวัญใจแม่ยก สู่ศรัทธาโปรยทานงานบวชเงินล้าน

p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 10.0px 0.0px; text-indent: 36.0px; font: 16.0px ‘Angsana New’; -webkit-text-stroke: #000000}
p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 10.0px 0.0px; text-indent: 36.0px; font: 16.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000}
span.s1 {font-kerning: none}
span.s2 {font: 16.0px ‘Angsana New’; font-kerning: none}

หากพูดถึงคณะลิเกชื่อดังในขณะนี้  เชื่อว่าคงหนีไม่พ้นคณะศรราม น้ำเพชร  ที่ว่ากันว่าบรรดานักแสดงในคณะไล่มาตั้งแต่พระเอก นางเอก ไปจนถึงตัวร้าย ล้วนแล้วแต่มีแฟนคลับของตนเองทั้งสิ้น และด้วยพัฒนาการทางการแสดงของลิเกคณะศรราม น้ำเพชรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ลิเกคณะศรราม น้ำเพชร จะสามารถมัดใจแฟนคลับได้ทุกเพศ ทุกวัย จนถึงขั้นที่ว่า ตารางงานศรราม น้ำเพชรเต็มทุกเดือน ยกเว้นช่วงฤดูฝนที่หยุดพักงานชั่วคราวเท่านั้นเอง


ศรราม เอนกลาภ หรือ ศรราม ลูกท่าเรือ หรือ แบงก์ พระเอกลิเกเจ้าเสน่ห์ของคณะศรราม น้ำเพชร เกิดวันที่ 19 ธันวาคม 2540 เริ่มเรียนรู้ด้านการแสดงลิเกมาตั้งแต่เล็ก ๆ  เมื่ออายุ 4 ปีมีโอกาสแสดงลิเกหน้าเวทีในบทของตัวตลก ขณะนั้นเป็นเพียงการแสดงท่าทางเท่านั้นยังไม่มีบทพูด กระทั่งเมื่ออายุ 6 ปีได้ขยับขึ้นมารับบท “พระเอก” เต็มตัวในเรื่อง “ผีเสื้อทอง” เป็นเรื่องแรก  แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นอุปสรรคในการจำบทของ ศรราม เอนกลาภ เพราะต่อให้มีบทยาวแค่ไหนก็ไม่เกินความสามารถที่จะจดจำบทที่ตนต้องรับ


และด้วยท่ารำที่งดงามและอ่อนช้อยของเขานี่เองที่ทำให้มีผู้ชมหลาย ๆ คนต่างประทับใจในการแสดงลิเกคณะศรราม น้ำเพชร ที่มีเขาเป็นพระเอก และด้วยความทุ่มเทให้กับการแสดงลิเก ประกอบมีใจรักทางด้านการแสดงทำให้ทุกวันนี้ ศรราม เอนกลาภ ยังคงเป็นพระเอกชื่อดังของลิเกคณะศรราม น้ำเพชร


อย่างไรก็ตามเขาได้กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อการบวชในครั้งนี้ว่า ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ลูกผู้ชาย และพร้อมแล้วที่จะเป็นพระภิกษุ นำบุญมาเผื่อแผ่ญาติโยมโดยเฉพาะพ่อและแม่และขณะพักการแสดงลิเก โดยตอนนี้มีคิวงานยาวไปถึงปี 2563 เกือบทุกวัน ทีแรกตั้งใจที่จะบวช 1 เดือน แต่เคลียร์คิวได้แค่ 22 วันเท่านั้น ส่วนเหตุที่มาบวชที่วัดท่าการ้อง เนื่องจากบิดา เป็นประธานกลุ่มศิลปินลิเกวัดท่าการ้อง และต้องการที่จะบวชแทนคุณพ่อแม่ที่สำคัญตนเองศรัทธาในพระพิพัฒนศาสนกิจวิธานเจ้าอาวาสวัดท่าการ้องซึ่งเป็นพระที่ส่งเสริมลิเกไทย โดยเจ้าอาวาสวัดท่าการ้องได้จองคิวว่าจ้างคณะของตนปีละหลายครั้งในช่วงเทศกาลต่าง ๆเป็นเวลายาวไปอีก 10 ปีล่วงหน้า


ถึงบรรทัดนี้คงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของพระเอกลิเกคนดังผู้นี้แล้ว รวมถึงเหตุและผลว่าทำไมถึงต้องเจาะจงบวชที่วัดท่าการ้องแห่งนี้  


สำหรับวัดท่าการ้อง อยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง โดยเป็นการรวมวัด 2 วัดเข้าด้วยกัน กล่าวคือ วัดท่า และวัดการ้อง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนราวพ.ศ.2092 โดยไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง มีเพียงบันทึกในพระราชพงศาวดารว่าพม่าได้มาตั้งค่ายที่วัดการ้องถึง 2 ครั้ง คือสมัยพระมหาจักรพรรดิ เมื่อพ.ศ.2106 โดยพระเจ้าตะเบงชเวตี้ได้ยกทัพมาตั้งค่ายที่วัดการ้องเมื่อคราวสงครามช้างเผือก และอีกครั้งสมัยพระเจ้าเอกทัศ โดยเนเมียวสีหบดีแม่ทัพพม่า เมื่อพ.ศ.2310 


จุดเด่นของวัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อยิ้ม พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นวัดแรก ๆในการพัฒนาห้องน้ำให้น่าใช้ และมีการจัดสวนให้น่าชม ปัจจุบันยังมีการจัดสถานที่ในการทำตลาดน้ำ ที่ถือเป็นจุดท่องเที่ยวอีกแห่งของวัดแห่งนี้อีกด้วย


หากมีโอกาสก็ลองแวะเวียนไปเที่ยวชมกันดู นอกจากได้ทำบุญสร้างกุศลแล้ว ยังจะได้อุดหนุนสินค้าในตลาดน้ำ จุดดึงดูดที่น่าสนใจของวัดด้วย

p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000}
p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000; min-height: 13.0px}
span.s1 {font-kerning: none}