สนธิรัตน์ ย้ำ ขอให้ประชาชนมั่นใจ การบริหารจัดการพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน ยันยังไม่มีผลกระทบในเรื่องราคา โดยสามารถบริหารจัดการได้ตามกลไกปรกติ ยันปริมาณสำรองมีถึง 50 วัน และมีการกระจายความเสี่ยงลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันดิบจากช่องแคบฮอร์มุซ จาก 74% เหลือ 50%
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการด้านพลังงาน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (7 ม.ค.63) ว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน
โดยสถานการณ์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในเชิงราคาน้ำมัน ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องดำเนินการใดๆเป็นพิเศษ เพราะภายใต้กลไกปกติยังบริหารจัดการได้ แต่ได้มีการเตรียมการที่จะใช้มาตรการต่างๆ ทั้งเรื่อง กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีเงินอยู่เกือบ 4 หมื่นล้านบาท การบริหารสต๊อกน้ำมัน ที่ปัจจุบันสามารถใช้ได้ 50 วัน และแก๊สยังมีเพียงพอต่อการใช้
ขณะเดียวกัน ได้ติดตามเรื่องการขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปที่อยู่ระหว่างการขนส่งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงพลังงานได้เตรียมการมาล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากทราบถึงความเปราะบางของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง จึงได้ลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจากตะวันออกกลางที่ต้องผ่านช่องแคบฮอร์มุซ จาก 74% เหลือ 50% และเปลี่ยนไปสู่พื้นที่อื่นที่ไม่มีปัญหา รวมทั้งได้มีการเตรียมการผลิตน้ำมันดิบในประเทศให้มาก และผลิตน้ำมันสำรองขึ้นมาใช้หากว่ามีปัญหา
“ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่าเรามีมาตรการรองรับ ไม่มีผลกระทบอะไรรุนแรง อาจมีกระทบต่อตลาดหุ้นบ้าง กระทบต่อค่าขนส่งบ้าง และราคาน้ำมันขยับขึ้นไปเล็กน้อย ทั้งนี้ จะมีการเชิญประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 10 ม.ค. 63 ที่จะถึงนี้” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
นสพ.สวิตเซอร์แลนด์ ชี้ 2 สำนักข่าวตะวันตกรายงานข่าวไม่ตรงความจริง