ผู้อำนวยการกลุ่มการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ชี้ประเทศไทยมีความเสี่ยงกลายเป็นทะเลทราย จากภาวะโลกร้อนในรูปแบบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แบบค่อยเป็นค่อยไป แนะทุกภาคส่วนตื่นตัวลดภาวะโลกร้อน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดเวทีประชุม Gobal Warming Forum “มิติใหม่ไทยภายใต้ความตกลงปารีส” เพื่อสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคม ให้ตระหนักถึงภัยของภาวะโลกร้อน อันจะนำไปสู่การร่วมมือกันในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
ดร.อัศมน ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน 2 รูปแบบ คือ ภาวะสุดขั้วของลมฟ้าอากาศ (Extreme Weather Event) ทั้งพายุ ภัยแล้ง และฝนตกหนัก ขณะเดียวกันก็เจอผลกระทบแบบ เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป (Slow Onset Event) ที่ปรากฏการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และยากที่จะหยุดยั้ง ซึ่งหากไม่กลไกในการจัดการ ประเทศไทยในอนาคตก็อาจเสี่ยงกลายเป็นทะเลทราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกถูกคุกคามจากภาวะโลกร้อนทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง และสิ่งมีชีวิตหลายชนิดเริ่มถูกคุกคาม
ทางด้าน ดร.กลย์วัฒน์ สาขากร ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานกลางอนุสัญญา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า ที่ผ่านมาภาครัฐตระหนักถึงปัญหาจากภาวะโลกร้อน ประเทศไทยมีการกำหนดแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ.2558-2593 เป้าประสงค์หลักคือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่อากาศ และนอกจากนี้ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้สัตยาบันความตกลงปารีส (Paris Agreement) ล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมในการขอรับเงิน Climate Finance ภายใต้กรอบระหว่างประเทศในบริบทของไทย อย่างไรก็ตามภาครัฐต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการหยุดยั้งภาวะโลกร้อน
นอกจากนี้เวทีเสวนายังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ตั้งคำถาม ถกประเด็นหาทางออกเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนร่วมกัน อันจะนำมาสู่ความร่วมมือในการแก้ปัญหาในอนาคต และที่ประชุมสรุปเห็นตรงกันว่า ควรเร่งการสื่อสารสร้างความร่วมมือกันทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อสร้างมิติใหม่ภายใต้ความตกลงปารีส