“สนธิรัตน์” ระดมแนวคิด ลุยแจ้งเกิด! โรงไฟฟ้าชุมชน เตรียมแผนใหญ่ดัน รถยนต์อีวี ครอบคลุมทั้งระบบ หลังแผนเดิมช้าแจ้งเกิดไม่ได้ ลั่น! พร้อมเป็นฐานผลิตแบตเตอรี่ ที่เป็นหัวใจหลักรถยนต์อีวี เป้าหมายไทยผู้นำด้านรถยนต์อีวีในภูมิภาคสิ้นปีนี้
วันนี้ (9 ต.ค.62) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการภาครัฐและเอกชนที่มีประสบการณ์จริงจากการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพื่อหาเเนวทางผลักดันโครงการ 1 ชุมชน 1 พลังงานทางเลือก ส่งเสริมให้เกิดการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน ที่ใช้วัตถุดิบจาก พืชพลังงานในพื้นที่ เช่น ซังข้าวโพด และเศษวัสดุพืชผลทางการเกษตรกร ซึ่งส่วนใหญ่ เมื่อไม่ใช้ประโยชน์จะต้องนำไปเผาทิ้ง ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้และประโยชน์ให้กับชุมชนด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นอีกส่วนหนึ่งลดปัญหาฝุ่น ซึ่งจะสอดคล้องกับมาตรการลดปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก(PM2.5) ในการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลบี 10 มากขึ้นแทนการใช้บี 7 โดย จะให้ทุกสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม)สามารถจำหน่ายดีเซลบี10 ครบทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1มี.ค. 2563 เป็นต้นไป พร้อมคาดว่าในไตรมาส1 ปีหน้า จะเห็นยอดการใช้บี 10 อยู่ที่ 30-40 ล้านลิตรต่อวัน
“ทำไมต้องส่งเสริมบี 10 ก่อนบี 20 เนื่องจากปัจจุบันมีรถที่สามารถใช้บี 10 ได้ถึง 50% จากจำนวนรถที่ทีมธุรกิจใช้น้ำมันดีเซลได้ทั้งหมด ขณะที่รถสามารถใช้บี 20 ยังมีจำนวนน้อย หากต้องการที่จะผลักดันให้เกิดการใช้ไบโอดีเซลให้ได้ตามเป้าหมาย 57 ล้านลิตรต่อวัน จึงควรเริ่มจากบี 10 ก่อน และได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานเร่ง ศึกษารายละเอียดและพิจารณาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่เกี่ยวข้องกับเอทานอลว่าจะมี แนวทางการส่งเสริมหรือยกเลิกประเภทใด เนื่องจากปัจจุบันไทยมีน้ำมันหลายชนิดมากเกินไป โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนใน พ.ย.นี้”นายสนธิรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างเตรียมแผนการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ครอบคลุมทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนของแบตเตอรี่ ที่เป็นหัวใจหลักของรถยนต์อีวี เพื่อให้นำไปสู่การเป็นฐานผลิตแบตเตอรี่ของภูมิภาค และเป้าหมายให้ไทยเป็นผู้นำ ด้านรถยนต์อีวีในภูมิภาค เนื่องจากมองว่า แผนการส่งเสริมรถอีวีในปัจจุบัน ยังมีความล่าช้า ไม่ค่อยได้รับการตอบสนองจากผู้ใช้ และผลิตมากนัก หากแผนยังไม่ชัดเจน จะยิ่งส่งผลให้ไทยเสียโอกาสได้ เพราะขณะนี้ทั้งประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ได้ ประกาศเป็นผู้นำด้านรถยนต์อีวีไปแล้ว โดยมาตรการทั้งหมดจะประกาศได้ภายในสิ้นปีนี้
“แคมเปญที่ออกมาเรียกได้ว่า เป็นบิ๊กบึ้มอีวีแน่นอน จะทำทุกองค์ประกอบให้ครบวงจร โดยระหว่างนี้จะหารือร่วมกับทุกหน่วยงานว่า แผนผลักดันอีวีให้สำเร็จ ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง โดยจะเชิญทุกภาคส่วนมาระดมสมอง กูรูด้านรถยนต์ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งใน ไทย และต่างประเทศ หลังจากได้แผนแล้วก็ต้องมาดูว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงาน ไหนบ้าง ก็จะหารือร่วมกัน เช่น มาตรการส่งเสริม ก็ต้องหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานส่งเสริมการลงทุน มาตรฐานต่างๆ ก็ต้องคุยกับกระทรวงอุตสาหกรรม ในส่วน ของกระทรวงพลังงาน ก็จะดูเรื่องทั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า หัวชาร์จไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า การ ใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า”นายสนธิรัตน์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้ากรณีที่บมจ.ปตท. จะนำบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก(โออาร์)เข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นเบื้องต้นโออาร์ได้ส่งแผนเข้ามา และ ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมไปบ้างแล้ว โดยโออาร์อยู่ระหว่างดำเนินการตอบโจทย์เรื่อง การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน การสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก และความ เข้มแข็งที่จะเป็นผู้นำในต่างประเทศ ขณะนี้ยังมีเวลาดำเนินการก่อนจะนำเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ด้าน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้มี 6 จังหวัดที่มีสายส่งพร้อม รับซื้อไฟฟ้าจะกำหนดเป็นพื้นที่นำร่อง เช่น ขอนแก่น ซึ่งได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยว กับหากเปิดให้โรงไฟฟ้าที่สร้างแล้วในบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เข้าร่วมโครงการ จะต้องกำหนดสัดส่วนให้ชุมชนร่วมถือหุ้นลักษณะใด อาจจะมีรูปแบบ การออกหุ้นบุริมสิทธิ์ หรือรูปแบบอื่น ๆ จะทำได้หรือไม่ โดยขอยืนยันว่าโรงไฟฟ้าชุมชน คำนึงถึงประโยชน์การสร้างรายได้ของชุมชนเป็นหลัก
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“พพ.” จับมือ “การเคหะฯ” ลุย! สร้างมาตรฐาน BEC ยกระดับอาคารอนุรักษ์พลังงาน