“บิ๊กตู่” ไม่ขอยุ่ง “ทักษิณ” กลับไทย ปล่อยตามกระบวนการยุติธรรม ส่วน”วิษณุ” ระบุ “ทักษิณ” กลับไทยตามกฎหมายจริงต้องเข้าคุกสถานเดียว ด้านรวมไทยสร้างชาติหาเสียงด้วยการยิงเลเซอร์หาเสียงบนเสาสะพานพระราม 8 ล่าสุดผู้ว่าฯกทม.สั่งยกเลิกแล้ว
ต่อกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตรโพสต์ทวิตเตอร์ว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเดือนกรกฎาคมก่อนวันเกิดนั้น ปฏิกริยาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่ได้อ่านข้อความที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ในทวิตเตอร์ว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการ ส่วนที่นายทักษิณระบุว่าจะกลับมา และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่าน และกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้เพราะตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว และมีสัญญาณส่งมาถึงตน
“เขาส่งมาทางไหน ทางอากาศเหรอ ผมไม่ได้รับคลื่นตรงนี้กลับมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกมาเคลื่อนไหวของนายทักษิณในช่วงนี้ว่ามีเจตนาอย่างไร หรือต้องการปลุกกระแสความนิยมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนก.ค. ซึ่งหากกลับมาแล้วจะต้องรับโทษหรือไม่ว่า เท่าที่จำได้ คดีของนายทักษิณ มีอยู่ 3 ประเภท ประเภทที่ 1 คือ ศาลตัดสินแล้วและไม่ได้มารับโทษ ประเภทที่ 2 คือ ศาลยังไม่ได้ตัดสิน และประเภทที่ 3 คือ ศาลตัดสินแล้ว แต่ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นจะต้องดูว่าเข้าข่ายคดีประเภทใด ก็ต้องดำเนินไปตามความผิดประเภทนั้น ซึ่งในคดีที่ศาลตัดสินแล้วสั่งให้จำคุกจะไม่สามารถขอประกันตัวได้แล้วจะต้องรับโทษสถานเดียว
ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม เคยระบุว่า ได้มีการจัดหาสถานที่เพื่อใช้กักผู้ต้องขังระหว่างที่ได้รับการประกันตัว หรือยังไม่ได้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด หรือที่เรียกว่า House Arrest ซึ่งสามารถกักตัวผู้ต้องขังที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่เรือนจำนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบาย แต่ยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม จึงต้องเข้าสู่สถานควบคุมของทางราชการก่อน ซึ่งก็คือเรือนจำ และไม่สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้
ส่วนจะมีกระบวนการใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อนายทักษิณ หรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ทราบ โดยขอให้ไปสอบถามจากทนายของนายทักษิณเอง
สำหรับกฎระเบียบของกระทรวงยุติธรรม ที่ระบุว่าจะต้องรับโทษก่อน 1 ใน 3 ถึงจะสามารถขออภัยโทษได้นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า การขออภัยโทษมี 2 กรณี คือ การขออภัยโทษเป็นการส่วนตัว กับการขออภัยโทษโดยการออกพระราชกฤษฎีกาเป็นการทั่วไป ซึ่งการขออภัยโทษโดยออกพระราชกฤษฎีกา จะต้องรับโทษก่อนอย่างน้อย 8 ปี หรือ 1 ใน 3 แต่การขออภัยโทษเป็นการส่วนตัว สามารถทำได้เลย แต่จะได้รับการอภัยโทษหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะต้องขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจ
กทม. สั่งยุติยิงเลเซอร์หาเสียง บนเสาสะพานพระราม 8
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประชาสัมพันธ์ข้อความหาเสียงบนเสาสะพานพระราม 8 โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ทำหนังสือมาถึงนายขจิต ชัชวาณิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) จริง โดยได้ขออนุญาตใช้สถานที่หาเสียงบริเวณสวนหลวงพระราม 8 และลานริมแม่น้ำใต้สะพานพระราม 8 รวมทั้งการขออนุญาตฉายภาพและข้อความด้วย
โดยยอมรับว่านายสุพจน์ หล้าจำศีล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน ได้ให้การอนุญาตใช้พื้นที่ในบริเวณสวนหลวงพระราม 8 และลานริมแม่น้ำใต้สะพานพระราม 8 ไป โดยไม่ได้พิจารณาอย่างละเอียดว่ามีเอกสารแนบในการขอฉายข้อความในพื้นที่ดังกล่าวด้วย แต่เมื่อได้เห็นภายหลังว่ามีการฉายโปรเจ็กเตอร์ข้อความหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นไปบนเสาสะพานพระราม 8 ซึ่งอยู่นอกเหนือพื้นที่ที่อนุญาตให้ปราศรัยหาเสียงได้ตามปกตินั้น กทม.จะได้ทำหนังสือแจ้งกลับไปยังผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าจะไม่อนุญาตให้มีการใช้สะพานพระราม 8 ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เพราะถือเป็นพื้นที่สาธารณะ และอาจมีผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่รถยนต์ในขณะนั้นด้วย
“ตอนที่อนุญาตไปนั้น เราเข้าใจว่าเป็นการหาเสียงตามปกติในพื้นที่สวน และลานใต้สะพานพระราม 8 ไม่ได้มีการฉายโปรเจคเตอร์ไปบนเสาสะพานด้วย เพราะเสาสะพานไม่ได้อยู่บนพื้นที่ที่เราอนุญาตให้ใช้หาเสียงอยู่แล้ว และตัวสะพาน ไม่ได้เป็นส่วนของสวนที่เราอนุญาต ซึ่งตัวสะพาน จะอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการโยธา ถ้าเราทราบ เราคงไม่อนุญาตให้ฉาย เพราะอาจมีปัญหาเรื่องความสนใจของผู้ใช้รถ” นายชัชชาติ กล่าว
พร้อมเชื่อว่า ผู้สมัครของพรรคการเมืองคนดังกล่าว คงไม่ได้มีเจตนาจะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และย้ำด้วยว่า กทม.มีความเป็นกลาง ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติกับพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่การที่อนุญาตไปในครั้งแรกนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และยอมรับว่า เป็นเพราะไม่ได้พิจารณาเอกสารอย่างละเอียด เนื่องจากในช่วงนี้ จะมีผู้สมัครทำหนังสือขออนุญาตใช้สถานที่ของ กทม.เพื่อใช้ในการปราศรัยหาเสียงเข้ามาเป็นจำนวนมาก และสุดท้าย ก็ขอให้ยุติการฉายข้อความบนเสาสะพานพระราม 8 แล้ว ซึ่งในหนังสือดังกล่าวได้ทำการขออนุญาตไว้ ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ค.66 ในช่วงเวลา 20.00 – 02.00 น.
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ กทม. จะทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอหารือถึงแนวทางหากในอนาคตจะมีผู้สมัคร ส.ส. มาขอใช้สถานที่ที่อยู่ในความดูแลของ กทม. ตลอดจนสถานที่ของเอกชน ในการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้ง ว่าควรจะมีแนวปฏิบัติอย่างไรเพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานต่อไป อย่างไรก็ดี กรณีนี้จะถืออีกเป็นบทเรียนของ กทม.ด้วย.
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“ทักษิณ” ปั่นกระแสโค้งสุดท้าย ประกาศกลับบ้าน ก.ค.นี้ยอมเข้ากระบวนการกม. ด้านแพทองธารลั่นไม่เอา 3 ป.
https://www.thaiquote.org/content/250181
กกต.เผยคนใช้สิทธิล่วงหน้า 91.83% ไร้เหตุทำเลือกตั้งเป็นโมฆะ มั่นใจรหัสเขตไม่ผิดพลาด
https://www.thaiquote.org/content/250177
ม.หอการค้าฯ เผยผลโพลคนคาดหวังสูงต่อรัฐบาลใหม่ ฝากแก้ปัญหาศก.-คอร์รัปชัน
https://www.thaiquote.org/content/249915