สตาร์บัคส์ เปิดตัวร้านกาแฟสีเขียว Greener Store ใหญ่ที่สุดในไทย เคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน มีพื้นที่คัดแยกขยะ แคมเปญลดพลาสติก ชูจุดเด่นร้านตกแต่งคำนึงถึงการใกล้ชิดธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ภูเขา แหล่งปลูกกาแฟ
สตาร์บัค ยังคงคอนเซ็ปต์ การเป็น ‘บ้านหลังที่สาม’ (Third Place) สำหรับ ผู้คนเพื่อมาแลกเปลี่ยนเรื่องราว และผ่อนคลาย ชมความเพลิดเพลินจากประสบการณ์การแตกต่างภายร้านกาแฟ
ล่าสุด สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เปิดตัวสาขาใหม่ “สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ วัน แบงค็อก” ออกแบบพื้นที่ภายใต้แนวคิด ‘ร้านกาแฟสีเขียว’ (Greener Store) ด้วยพื้นที่กว่า 860 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในไทย ณ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ชูแนวคิดด้านความยั่งยืน ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมไทยเข้ากับการออกแบบที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรม ท่ามกลางฉากหลังที่มีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างสตาร์บัคส์กับชุมชนท้องถิ่น พร้อมใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม สัมผัสกับความอบอุ่น คู่กับกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์และการเชื่อมต่อกันระหว่างผู้คน พื้นที่ ธรรมชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยมีองค์ประกอบด้านความยังยั่งยืน ดังนี้
-ออกแบบผสมผสานให้กลมกลืนกับพื้นที่ร้านกาแฟ ในบรรยากาศแหล่งธรรมชาติ ตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
-การอนุรักษ์น้ำ ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
-การใช้พลังงานอย่างประหยัด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
-การลดขยะ ทำให้การใช้วัสดุอย่างรับผิดชอบ ผสมผสานเทคโนโลยีในปัจจุบัน
-พื้นที่คัดแยกขยะที่ให้ลูกค้าทำความสะอาดแก้วก่อนกำจัด
-พื้นที่รองรับธุรกิจร้านกาแฟ สำหรับลูกค้าที่อยากเรียนรู้กาแฟใหม่ๆ ส่งต่อองค์ความรู้ให้คนทุกกลุ่ม
สร้างแรงบันดาลใจ วัฒนธรรมกาแฟไทยผสานศิลปะท้องถิ่น
เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยถึงการเปิดตัว “สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ วัน แบงค็อก” ว่า แนวคิดการเปิดตัวร้านกาแฟ ต้องการสร้างภาพสะท้อนความมุ่งมั่นของสตาร์บัคส์ที่มีต่อประเทศไทยและลูกค้า โดยการเชื่อมต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม ชาวไร่กาแฟ และชุมชนท้องถิ่น พื้นที่นี้ถูกสร้างให้เป็นมากกว่าร้านกาแฟ ผสานค่านิยมวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ คู่กับงานศิลปะท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์
“ร้านถูกออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นที่จะเสิร์ฟกาแฟคุณภาพ สร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่นี่คือจุดบรรจบของประเพณีและนวัตกรรม และทุกแก้วกาแฟที่เสิร์ฟจะเล่าเรื่องราวของความยั่งยืนและวัฒนธรรมท้องถิ่นในประเทศไทย”
ธนาศักดิ์ กุลรัตนรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวถึงแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบว่าต้องการสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความงดงามของท้องถิ่น จึงออกแบบให้กลมกลืนกันเป็นที่พักผ่อน โอบล้อมด้วยธรรมชาติ จากดอยอินทนนท์
ภายในร้านทั้งสองชั้นได้รับแรงบันดาลใจจากทิวเขาที่ปลูกกาแฟในภาคเหนือ ที่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวเขา และเกิดแนวคิด “เรือนยอดไม้” หรือ “Tree Top Canopy” ซึ่งสื่อถึงสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่เหมาะสมในการเพาะปลูกกาแฟ
ชั้นล่างของร้านเปรียบเสมือน “ต้นกาแฟ” ที่เน้นการชงและเสิร์ฟ ส่วนชั้นบนที่ออกแบบให้เสมือนยอดไม้ มีพื้นที่นั่งเล่นบรรยากาศผ่อนคลาย เชื่อมโยงผู้คนให้มาแลกเปลี่ยนและสร้างสัมพันธ์ที่มีความหมาย
นอกจากนี้ ภายในร้านยังประดับด้วยงานศิลปะจากศิลปินชาวไทยเพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมกาแฟไทย ไฮไลต์ ได้แก่ ผ้าทอจาก Ease Studio ที่ประดับบนเพดาน และภาพจิตรกรรมฝาผนังในห้อง Community Room โดยภาวิษา มีศรีนนท์ (PABAJA) ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ปลูกกาแฟ
โอบล้อมมรดกวัฒนธรรม ทิวทัศน์ภาคเหนือ
ขณะที่การตกแต่งในร้านได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์และมรดกวัฒนธรรมของภาคเหนือ งานศิลปะบนเพดานจำลองเมล็ดกาแฟที่จัดวางด้วยเทคนิคการทอและไล่สีอย่างลงตัว เพื่อสื่อถึงความซับซ้อนและหลากหลายของรสชาติ นอกจากนี้ ผนังอิฐที่ชั้นล่างยังสะท้อนภาพนาขั้นบันไดเป็นเอกลักษณ์ และเมื่อลูกค้าเดินขึ้นไปชั้นบนจะสัมผัสถึงบรรยากาศทิวทัศน์ดอยอินทนนท์
“การออกแบบร้านได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมกาแฟที่หลากหลายของภาคเหนือของไทย ผสมผสานกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของทำเลใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ร้านนี้ถือเป็นสถานที่ต้อนรับกลางกรุง ทีมงานมุ่งเน้นสร้างสรรค์ให้สะท้อนถึงความงดงามและประเพณี และเสาะหาวัสดุจากท้องถิ่น เช่น อิฐที่ผลิตในประเทศไทยเพื่อสร้างดีไซน์ด้านหลังร้าน ซึ่งช่วยลดกระบวนการขนส่ง ค่าน้ำมัน และการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
โตอย่างยั่งยืน ขยายร้านสีเขียว 20 สาขา
จุฑาทิพย์ เก่งมานะ ผู้จัดการด้านผลกระทบทางสังคมและความยั่งยืนของสตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า โอกาสของธุรกิจร้านกาแฟในเมืองไทยยังเติบโตได้มาก อย่างใน วัน แบงค็อก โครงการหนึ่ง สามารถเปิดได้ 3 สาขา โดยเป็นร้านแรกในประเทศที่มี Condiment Bar เพื่อความยั่งยืน ส่งเสริมให้ลูกค้าล้างแก้วและทิ้งขยะในจุดที่เหมาะสม สะท้อนถึงความตั้งใจในการดูแลสิ่งแวดล้อมและลดขยะได้ใช้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนมาผสมผสาน ได้แก่ จุดรีไซเคิลขยะครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย ระบบการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้สตาร์บัคส์ ตั้งเป้าเปิดร้าน Greener Store จำนวน 20 สาขาภายในสิ้นปี 2567 รวมถึงเปิดตัวแคมเปญ “LITTLE CHOICES. BIG CHANGES.” มอบส่วนลด 10 บาทแก่ลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ในร้าน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืน ซึ่งตัวเลขของลูกค้าที่นำแก้วมา ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายนปี 67 ลูกค้านำแก้วมาเอง 1.6 ล้านแก้ว ถือว่าเป็นการตอบรับที่ดี
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายระดับโลกในการรับรอง Greener Stores 10,000 แห่งทั่วโลกภายในปี พ.ศ 2568 เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้น้ำ และขยะฝังกลบลง 50% ภายในปีพ.ศ. 2570
ตอบโจทย์ ลูกค้าที่อยากเรียนรู้กาแฟใหม่ๆ – สื่อสารใกล้ชิด
จุฑาทิพย์ ยังกล่าวว่า ภายในร้านกาแฟแห่งนี้ ยังยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยเครื่องชงเอสเพรสโซ่ OVISO™ ที่ออกแบบให้เครื่องชงอยู่ด้านล่าง (bottom-fill) ช่วยให้พนักงานสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด เมื่อเทียบกับตัวเครื่องขนาดใหญ่
ขณะที่เมล็ดกาแฟมาจากชาวไร่ในทางภาคเหนือของไทย ทุกการจำหน่ายเครื่องดื่มจากเมล็ดกาแฟ “ม่วนใจ๋ เบลนด์” จะบริจาค 10 บาทเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่ ผ่านมูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน