หนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-Economy) สู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน คือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ จากสินค้าเกษตรไทย ล่าสุด บมจ.พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ ลงนามเอ็มโอยูกับ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ โดยใช้ปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบ ลดพึ่งพาฟอสซิล ลดโลกร้อน เพิ่มรายได้เกษตรกรไทย
‘การวิจัยและพัฒนา’ นับเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะ ‘ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่ผู้คนต่างตระหนักถึงภัยจากภาวะโลกร้อน และต้องการมีส่วนร่วมลดปัญหาดังกล่าวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนดูแลโลก เช่นเดียวกับกติกาการค้าโลกในยุคนี้ ที่ต้อนรับผลิตภัณฑ์รักษ์โลก และผลักผลิตภัณฑ์ทำร้ายโลกให้ออกห่าง
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ภาคธุรกิจต้องแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ชีวภาพ หนึ่งในนั้นคือ บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้ประกอบการด้านโซลูชันน้ำมันหล่อลื่น ที่ล่าสุดได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ผู้ประกอบการด้านธุรกิจเคมีชีวภาพ บริษัทในเครือ GC Group เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลักดันผลิตภัณฑ์น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ EnPAT ให้ก้าวสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ตอบสนองต่อความต้องการในตลาดพลังงานหมุนเวียน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ใช้วัตถุดิบชีวภาพจากปาล์มนัำมันไทย ลดพึ่งพาพลังงานฟอสซิล
เสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ EnPAT ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดที่เน้นความยั่งยืน โดยใช้วัตถุดิบชีวภาพจากปาล์มน้ำมันไทย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล
โดยข้อตกลงนี้ยังมุ่งเน้นการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ และศักยภาพในการขยายกำลังการผลิตสู่ระดับอุตสาหกรรม พร้อมการทำงานร่วมกันในด้านการตลาดและการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ในอนาคต
“การร่วมพัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพจากน้ำมันปาล์มไทยในครั้งนี้ ถือเป็นโครงการสำคัญที่ไม่เพียงส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการนำเข้าและพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
ทดสอบการใช้งาน กับ สวทช. กำลังการผลิต 300 ลิตรต่อครั้ง
เสกสรร ยังกล่าวว่า ปัจจุบัน PSP กำลังทดสอบการใช้งานน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ EnPAT ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในโครงการ EnPAT ซึ่งทีมวิจัยได้ติดตั้งต้นแบบระบบการผลิตน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพที่มีกำลังการผลิตประมาณ 300 ลิตรต่อครั้ง และได้ทำการทดสอบระบบจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เพิ่มมูลค่าให้น้ำมันปาล์ม สร้างรายได้เกษตรกรไทย ลดการนำเข้า
กฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC กล่าวว่า GGC ร่วมกับภาครัฐดำเนินโครงการ EnPAT โดยพัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพจากน้ำมันปาล์มที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการนี้มีการทดสอบภาคสนามเชิงบูรณาการ เพื่อสร้างโอกาสในการใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเศรษฐกิจใหม่ภายใต้ BCG Model และ New S-Curve ด้าน Biochemicals ช่วยเพิ่มมูลค่าให้น้ำมันปาล์ม สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทย และทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
“ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในอนาคต ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในระดับสากล สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของ GGC ที่มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้กับภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน” กฤษฎา กล่าว