ย้อนรอยเส้นทางการแสวงหาความมั่งคั่ง หมอบุญ นักธุรกิจ นักลงทุน ผู้แสวงหาโอกาส สร้างอาณาจักรธุรกิจเฮลท์แคร์ จนกระโจนการลงทุนนำเข้าวัคซีน และถุงมือแพทย์ในยุคโควิด จนนำไปสู่การสร้างหนี้ และทำให้ธุรกิจเวลเนส 5 โครงการ ไม่เป็นไปตามที่วาดหวังไว้
ชื่อของ หมอบุญ วนาสิน (นายแพทย์ที่กลายเป็นนักธุรกิจ นักลงทุนเศรษฐีหุ้น) เคยนั่งในตำแหน่งประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG หยิบจับโอกาสธุรกิจใหม่ตั้งมากมาย หลังจากมีชื่อเสียงจากรวยหุ้น ลงทุนโรงพยาบาล จนสามารถสร้างอาณาจักรธุรกิจที่เข้าไปถือหุ้น 27 บริษัท อาทิ บริษัท ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด บริษัท ทันตสยาม จำกัด บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลเด้น พร็อพเพอร์ตี้ส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ไทยเมดิคอลโกลฟ จำกัด มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท แบ่งเป็น THG ถือหุ้นใหญ่ 12 บริษัท และถือหุ้นส่วนตัว 15 บริษัท
ก่อนหน้านี้ได้ไปวิพากษ์วิจารณ์กรณีการอนุมัตินำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาและไฟเซอร์ของหน่วยงานรัฐล่าช้า ทำให้ต้องชี้แจงของสำนักงานอัยการสูงสุดและองค์การเภสัชกรรม สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสเป็นผู้นำเข้าวัคซีนตามที่เคยประกาศไว้
ข้อหาล่าสุด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรม หมอบุญ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี มีการปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเยนต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท และมีการตั้งข้อสังเกตุว่าจำนวนผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายขยายมูลค่าเฉียดหมื่นล้าน นี่จึงทำให้เกิดข่าวหลุดว่า คุณหมอได้หลบหนีหนีคดีและหนี้ที่ทิ้งไว้ไปยังต่างประเทศแล้ว
ข่าวนี้สะทำให้วงการการนักลงทุน และธุรกิจตกใจไม่น้อย เพราะภาพลักษณ์ของหมอบุญ ได้รับความน่าน่าเชื่อถือ และเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กลับกลายเป็นถูกกล่าหาเป็นนักฉ้อโกง และฟอกเงิน แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็ต้องโดนข้อกล่าวหาไปด้วย ทั้งนางจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาของนายแพทย์บุญ และนางสาวนลิน วนาสิน บุตรสาวของนายแพทย์บุญ ซึ่ง นางจารุวรรณ และนางสาวนลิน ก็มีตำแหน่งเป็นกรรมการของบริษัทฯ ซึ่งทั้งสองท่านได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์พร้อมทั้งให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยชี้แจงว่าลายมือชื่อในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกปลอมแปลง
5 โครงการเติบโตรับโอกาสจุดแข็งประเทศ
ธุรกิจเวลเนส และรักษาพยาบาลบูม
สำหรับข้อหาที่ปรากฎตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการชักชวนนักลงทุนของนายแพทย์บุญ วนาสิน ในธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการ ประกอบด้วย
- โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า
- โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
- โครงการโรงพยาบาลในลาว 3 แห่ง
- โครงการเข้าร่วมทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม
- โครงการสร้าง Medical intelligence
โครงการเหล่านี้ล้วนเป็นธุรกิจที่มีโอกาสและเติบโตตามทิศทางนโยบายและการพัฒนาประเทศ ไทยในการขับเคลื่อนการเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล และการดูแลสุขภาพแห่งอาเซียน
เพราะจุดแข็งของไทยในการมีศักยภาพด้านความเชี่ยวชาญทางการแพทย์และการบริการ รวมถึงองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในราคาที่แข่งขันได้ จึงทำให้หมอบุญใช้โอกาสนี้ในการขยับขยายธุรกิจ แต่สุดท้าย กลับไม่เป็นไปตามคาด
จุดเปลี่ยนสำคัญก่อนหน้าที่เป็นเหมือนการก้าวพลาด ผิดจังหวัดผิดที่ผิดเวลา คือช่วงโควิด .. จนทำให้เกิดหนี้สะสมถึง 7,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้หมอบูญก็มีโครงการหลากหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประเทศไทย อาทิ การลงทุนรองรับผู้สูงวัย 4 โครงการ ได้แก่ ธนบุรี เวลบีอิ้ง จ.เชียงใหม่ 2 แห่งสำหรับรองรับซีเนียร์ แคร์ต่างชาติเป็นหลัก, โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ สำหรับรองรับซีเนียร์ แคร์ทั้งคนไทยและต่างชาติ และธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ประชาอุทิศรองรับซีเนียร์ แคร์คนไทยชนชั้นกลาง
โครงการที่เจ็บหนักสุดคือการลงทุนโรงงานถุงมือยางในช่วงโควิด มูลค่าการลงทุนสูง 3.5 หมื่นล้านบาท มีการสร้างโรงงานรับซื้อยางในประเทศ 6 แสนตัน/ปี ในพื้นที่ เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพราะมองว่าเป็นโอกาสในช่วงไวรัสโควิด -19 ส่งผลทำให้ความต้องการถึุงมื่อยางเติบโต จึงหวังผลิตถึงมือยางเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ทั้งยุโรป และสหรัฐอเมริกา แต่ปรากฎกว่าโรงงานผลิตเสร็จสิ้นล่าช้า และเมืองถึงจุดที่ต้องส่งออกราคาก็ลดลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้ขาดทุน
ธนบุรี เฮลท์แคร์ แจงไม่สนใจลงทุน2โครงการ
หมอบุญชักชวนลงทุนนามส่วนบุคคล
ทว่า การลงทุนชองหมอบุญ ซึ่งเป็นผู้บริหาร กลับเป็นคนละทิศทางนโยบายกับบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล ธนบุรี ได้ออกหนังสือชี้แจง เกี่ยวกับการชักชวนนักลงทุนต่าง ๆ ให้เข้าลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของนายแพทย์บุญ วนาสิน เป็นการลงทุนในนรามบุคคล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารของฝั่งธุรกิจ โรงพยาบาล ที่ผ่านมาเป็นเพียงการ การเข้าทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) และศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น ทั้ง โครงการร่วมทุนในการสร้างศูนย์มะเร็ง ศูนย์ดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลังผ่าตัด ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร และศูนย์ดูแลสุขภาพองค์รวม ย่านปิ่นเกล้า และการลงทุนสร้างโรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ผลการศึกษา เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดทั้ง 2 โครงการ จึงตัดสินใจไม่เข้าไปลงทุน และทางบริษัท ได้เคยมีหนังสือชี้แจงไปก่อนหน้าแล้วและนายแพทย์บุญ วนาสิน ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและประธานกรรมการของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 65 และปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งใด ๆ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบริษัทฯ
สิ่งที่บริษัทเน้นย้ำ ของTHG คือการเน้นย้ำถึงธุรกิจไม่เกี่ยวกับครอบครัวหมอบุญ เพื่อสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน ตามหลักหลักธรรมาภิบาล และยึดมั่นในการทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส ในช่วงที่นักลงทุนต่างขาดความไม่มั่นใจจนทำให้ราคาหุ้นของกลุ่มธุรกิจตกลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่มีข่าว