วิจัยชี้ ChatGPT เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้ 700 ล้านคนทั่วโลก กูรูแนะนักสื่อสารองค์กร เร่งปรับตัว

วิจัยชี้ ChatGPT เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้ 700 ล้านคนทั่วโลก กูรูแนะนักสื่อสารองค์กร เร่งปรับตัว

ผลวิจัย OpenAI และ NBER ชี้ ผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลกใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ช่วยคิดและตรวจแก้” มากกว่าผู้ผลิตเนื้อหา นักสื่อสารควรเร่งพัฒนาทักษะ Prompt Engineering และกลยุทธ์ AEO เพื่อตอบโจทย์การสื่อสารยุค AI

ChatGPT กำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานของผู้คนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว งานวิจัยล่าสุดจาก OpenAI และ National Bureau of Economic Research (NBER) ที่ศึกษาผู้ใช้กว่า 700 ล้านคน ระหว่างพฤษภาคม 2024 – มิถุนายน 2025 พบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้นำมาใช้เพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ แต่ใช้เป็น “ผู้ช่วยคิด วิเคราะห์ และตรวจแก้” มากกว่า ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในงานสื่อสารและการตลาด

 

 

การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในแทบทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะงานสื่อสารและการตลาดองค์กรที่ต้องเผชิญกับความคาดหวังที่สูงขึ้นจากผู้บริโภคและสังคม
บทบาทของนักสื่อสารจึงไม่ได้หยุดอยู่เพียงการผลิตเนื้อหา แต่ต้องพัฒนาไปสู่การวางกลยุทธ์ วิเคราะห์ข้อมูล และถ่ายทอดสารอย่างแม่นยำ

 

  นายสราวุธ บูรพาพัธ ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อการสื่อสารองค์กร 

 

นายสราวุธ บูรพาพัธ ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อการสื่อสารองค์กร เปิดเผยว่า “ChatGPT ได้เข้ามามีบทบาทอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง งานวิจัยล่าสุดจาก OpenAI และ NBER (National Bureau of Economic Research) ที่ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่าหากองค์กรใช้อย่างมีวิจารณญาณ ก็จะสามารถสร้าง มูลค่าเชิงยุทธศาสตร์ ได้อย่างแท้จริง”

 

ผลวิจัยพบว่า 40% ของข้อความที่เกี่ยวข้องกับงานใน ChatGPT เป็นงานด้านการเขียน และสูงถึง 52% ในกลุ่มอาชีพด้านการจัดการและธุรกิจ แต่ลักษณะการใช้งานไม่ได้เน้นการผลิตเนื้อหาใหม่ หากแต่ใช้เพื่อแก้ไข วิจารณ์ ปรับโทนเสียง สรุป หรือแปลข้อความ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการใช้งานทั้งหมด สะท้อนว่านี่ไม่ใช่แค่ “เครื่องมือผลิตเนื้อหา” แต่เป็น “ผู้ช่วยปรับแต่งเนื้อหา” อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

การวิเคราะห์ของ NBER ยังพบว่า 49% ของข้อความที่ผู้ใช้ป้อนเข้าสู่ ChatGPT เป็นคำถาม เพื่อขอข้อมูลหรือแนวทางสนับสนุนการตัดสินใจมากกว่าการสั่งให้ระบบทำงานโดยตรง ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทใหม่ของนักสื่อสารที่ต้องเป็น ที่ปรึกษา ให้ผู้บริหาร และองค์กร

 

“บทบาทของนักสื่อสารในวันนี้เปลี่ยนจากผู้ผลิตเนื้อหาไปสู่การเป็นผู้ตรวจแก้และยกระดับเนื้อหา (Editor & Enhancer) ChatGPT สามารถช่วยปรับโทนเสียง สรุปสาระสำคัญ หรือแปลเนื้อหาให้สอดคล้องกับกลยุทธ์แบรนด์ และยังช่วยร่างคำพูดสำหรับผู้บริหารในงานสำคัญได้ด้วย” นายสราวุธกล่าว

 

 

 

 

ผลวิจัยยังพบว่า การใช้งานเพื่อการเรียนรู้และฝึกฝน เช่น การทำความเข้าใจแนวคิด CSR หรือการจำลองสถานการณ์ Crisis Communication มีสัดส่วนสูงถึง 29% ขณะเดียวกัน การใช้งานเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 24% ส่วนการใช้งานเพื่อการเขียนลดลงจาก 36% เหลือ 24% ซึ่งสะท้อนการปรับบทบาทของเครื่องมือจาก ผู้ผลิต สู่ ผู้ช่วยคิด

 

 

นายสราวุธ สรุปว่า “ยุค AI นักสื่อสารควรปรับวิธีนำเสนอให้ตอบโจทย์การค้นหาข้อมูลแบบตอบทันที (instant answers) ผลิตเนื้อหาแนว How-to และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการทำ AEO (Answer Engine
Optimization) หากรู้จักใช้ AI อย่างเหมาะสม ไม่เพียงได้ผู้ช่วยอัจฉริยะ แต่ยังสามารถเพิ่มคุณค่าของบทบาทนักสื่อสารในระดับองค์กรและสังคมได้อย่างชัดเจน”

สำหรับการวิจัยครั้งนี้ ข้อมูลถูกเก็บจากผู้ใช้งาน ChatGPT ระหว่างพฤษภาคม 2024 – มิถุนายน 2025 โดยใช้เทคนิค Privacy-preserving automated classifiers เพื่อวิเคราะห์เจตนาและหัวข้อความ โดยไม่เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยตรง และทำงานภายใต้ระบบควบคุมที่เรียกว่า Data Clean Room

นักสื่อสารที่ใช้ AI ได้อย่างชาญฉลาด ไม่เพียงมีผู้ช่วยอัจฉริยะอยู่เคียงข้าง แต่ยังสามารถยกระดับบทบาทของตนเองให้เป็นผู้นำการสื่อสารยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งองค์กรและสังคมได้ในเวลาเดียวกัน

 

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม