สมาคมตลาดคาร์บอนหลัก 5 แห่งจากไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และอาเซียน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการประชุม COP29 สนับสนุนการพัฒนา “กรอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนร่วมของอาเซียน สร้างมาตรฐานและแนวทางสำหรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในภูมิภาค
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคธุรกิจ เพื่อร่วมลดวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) เริ่มจะกลายภาคบังคับให้ต้องดำเนินการมากขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากแรงกดดันจากการกำหนดมาตรการทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมของนานาประเทศ
ทั้งนี้ หากองค์กรใดไม่ดำเนินตามมาตรการดังกล่าว จะไม่สามารถเข้าถึงการค้าได้ ทำให้ขาดความสามารถในการแข่งขัน ขาดความยั่งยืนในที่สุด
ขณะที่แนวทางการลดก๊าซเรือนกระจก ทำได้ 3 วิธีหลัก ด้วยการลด – ดูดกลับ และ ชดเชย ลดคือการลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมองค์กรโดยตรง ขณะที่การดูดกลับคือการใช้เทคโนโลยีมาดูดกลับก๊าซเรือนกระจกไปกักเก็บหรือใช้ประโยชน์ต่อ ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกอยู่ระหว่างขับเคลื่อนนวัตกรรมดังกล่าว
อีกแนวทางคือการชดเชย ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต มาชดเชยก๊าซเรือนกระจกที่องค์กรปล่อยออกมาในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อทำให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในวิธีการหลังนี้ กลายเป็นที่มาของ ‘ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต’ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยรายงานจากธนาคารโลก ระบุว่า ปริมาณคาร์บอนเครดิตทั่วโกล มีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยในช่วงปี 2561-2565 พบว่า อยู่ที่ 475 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2565
ทั้งนี้ในประเทศไทย ได้เกิด Carbon Markets Club ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของภาคเอกชนในรูปแบบชมรมที่ไม่แสวงหาผลกำไรแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการผลักดันตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ และให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 1,300 ราย ให้บริการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) พร้อมทั้ง มีการนำเสนอเครื่องมือประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์สำหรับองค์กร (CFO) และเครื่องมือคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์สำหรับบุคคล (MyCF) โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงการจัดสัมมนาออนไลน์ และการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของสังคมในวงกว้างในตลาดคาร์บอนและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
5 สมาคมตลาดคาร์บอน ผนึกร่วมมือ
พัฒนาตลาดคาร์บอนร่วมอาเซียน
ล่าสุด Carbon Markets Club ยังได้ขยายความร่วมมือสู่การสร้างตลาดคาร์บอนร่วมของอาเซียน ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Collaboration – MoC) ของสมาคมตลาดคาร์บอนหลัก 5 แห่งในอาเซียน ได้แก่ ประเทศไทย โดย Carbon Markets Club มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และอาเซียน ณ การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 29 หรือ COP29 ที่จัดขึ้น ณ เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เพื่อสนับสนุนการพัฒนา “กรอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนร่วมของอาเซียน” (ASEAN Common Carbon Framework – AACF)
ร่วมสร้างมาตรฐาน-แนวทางซื้อขายคาร์บอนเครดิต
อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานและแนวทางสำหรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ภายในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพและความโปร่งใส ร่วมขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งมี นายนิก นัซมี บิน นิก อะฮ์มัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมของประเทศมาเลเซีย Mr. Stanley Loh ปลัดกระทรวงกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมของประเทศสิงคโปร์ Mr. Ahmad Kamrizamil Mohd Riza เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศอาเซอร์ไบจาน และนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ร่วมก่อตั้ง Carbon Markets Club ร่วมเป็นพยานกิตติมศักดิ์
โดยผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นผู้แทนของสมาคมต่าง ๆ จากภาคเอกชนของประเทศในอาเซียน ได้แก่
- Carbon Markets Club จากประเทศไทย ลงนามโดย นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน Carbon Markets Club
- Malaysia Carbon Market Association (MCMA) จากประเทศมาเลเซีย โดย Dr. Renard Siew
- ASEAN Alliance on Carbon Market (AACM) โดย Ms. Natalia Rialucky
- Indonesia Carbon Trade Association (IDCTA) จากประเทศอินโดนีเซีย โดย Mr. Yoshan Fazri
- Singapore Sustainable Finance Association (SSFA) จากประเทศสิงคโปร์ โดย Ms. Kavitha Menon
พัฒนาการค้าคาร์บอนเครดิตยั่งยืนในอาเซียน
โดยภายใต้กรอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนร่วมของอาเซียน (AACF) มีการวางแนวทางเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการค้าคาร์บอนเครดิตอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดยมีจุดมุ่งหมายสนับสนุนให้เกิดโครงการคาร์บอนเครดิตที่ได้มาตรฐาน เสริมสร้างศักยภาพบุคลากรผ่านการฝึกอบรมด้านเทคนิคและการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี พร้อมทั้งสนับสนุนความร่วมมือทางธุรกิจข้ามพรมแดนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตลาดคาร์บอนที่เชื่อมโยงกัน ลดอุปสรรคในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ และร่วมขับเคลื่อนภูมิภาคสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
เคลื่อนยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอนอาเซียน
นิก นัซมี บิน นิก อะฮ์มัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมของประเทศมาเลเซีย กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตของตลาดคาร์บอนในภูมิภาคอาเซียน กรอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนร่วมของอาเซียนจะช่วยให้ยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอนของอาเซียนเป็นรูปธรรม
“ด้วยความร่วมมือนี้ หวังว่าจะเห็นอาเซียนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก โดยอาศัยทั้งเทคโนโลยีและการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติเพื่อก้าวไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ”
Carbon Markets Club คลับรักษ์โลก
ลดก๊าซเรือนกระจกเอกชนแห่งแรกในไทย
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้ง Carbon Markets Club กล่าวว่า ในฐานะคลับรักษ์โลกลดก๊าซเรือนกระจกของภาคเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ที่สนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยภูมิใจที่ได้เติบโตจากสมาชิกผู้ก่อตั้ง 11 รายสู่ 1,300 รายภายในเวลาเพียง 3 ปี
“เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีความมุ่งมั่นในการร่วมสร้างตลาดคาร์บอนที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เรามีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับภูมิภาค สนับสนุนกรอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนร่วมของอาเซียน เพื่อปูทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนและคาร์บอนต่ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างความมั่นใจว่าความพยายามร่วมกันของเราจะส่งผลในระดับโลกอย่างแท้จริง”