เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย หรือ ‘TSCN’ ซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังของ 9 องค์กรธุรกิจไทย เพื่อเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพจากหลากหลายอุตสาหกรรมสร้างความยั่งยืนร่วมกันตลอดซัพพลายเชน ล่าสุดมอบรางวัลให้กับองค์กรในเครือข่าย 48 บริษัท ที่ขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืนจนเกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม พร้อมลงนามประกาศเจตนารมณ์แนวทางปฏิบัติคู่ค้า (Code Of Conduct) ตามแนวทาง ESG
การสร้างความยั่งยืนในภาคธุรกิจ จะเกิดเป็นรูปธรรมได้ ย่อมต้องอาศัยความร่วมมือผนึกกำลังของทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่อุปทาน หรือ ซัพพลายเชน กลายเป็นที่มาของการรวมตัวของ 9 บริษัทเอกชนไทย ในฐานะ TSCN Co-founders เพื่อจัดตั้ง เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network) หรือ ‘TSCN’ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 เพื่อเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพจากหลากหลายอุตสาหกรรม ผ่านการจับคู่อุปสงค์และอุปทานในการทำธุรกิจ และเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมกัน และขยายธุรกิจไปในยังต่างประเทศหรือตลาดอื่น ๆ ผ่านการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ
9 องค์กรไทย ผนึกกำลังก่อตั้ง TSCN
โดย 9 บริษัทเอกชนไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จํากัด (มหาชน), กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จํากัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทย เบเวอร์เรจ แคน จํากัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จํากัด (มหาชน)
ล่าสุดเครือข่ายฯ ดังกล่าวได้จัดงาน TSCN Business Partner Conference ซึ่งจัดร่วมกับงานมหกรรมเพื่อความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน (Sustainability Expo 2024 – SX 2024) โดยได้มอบรางวัล SX TSCN Sustainability Award เป็นครั้งแรก ให้กับองค์กรในเครือข่าย 48 บริษัท ที่ขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืนจนเกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม และเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรอื่นๆ ในซัพพลายเชน นับเป็นการยกระดับการดำเนินงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของตนเองอีกด้วย
มอบรางวัลความยั่งยืนให้ 48 องค์กร
หวังสร้างแรงบันดาลใจเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน
ต้องใจ ธนะชานันท์ ผู้อำนวยการคณะจัดงาน SX 2024 และเลขานุการคณะทำงาน TSCN กล่าวว่า การจัดมอบรางวัล SX TSCN Sustainability Award ให้กับองค์กรในเครือข่าย 48 บริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืน
โดยองค์กรที่ได้รับรางวัลดังกล่าวได้รับการคัดเลือก และเสนอชื่อ โดย TSCN Co-founders ทั้ง 9 องค์กร เป็นบริษัทที่มีการดำเนินโครงการด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับ TSCN Co-founders อย่างเป็นรูปธรรม สามารถวัดผลได้ชัดเจนในด้านสิ่งแวดล้อม และหรือด้านสังคม อาทิ
‘บังกี้’ โครงการตรวจสอบย้อนกลับ
ที่มาถั่วเหลืองจากแหล่งปลูก ไม่บุกรุกป่า
โครงการระบบตรวจสอบย้อนกลับ บนเทคโนโลยีบล๊อคเชนเพื่อติดตามที่มาถั่วเหลืองจากแหล่งปลูก ที่ไม่บุกรุกป่า ของ บริษัท บังกี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายห่วงโซ่อุปทานปลอดการตัดไม้ทำลายป่า 100%
‘ศรีตรังโกลฟส์’ โครงการกล่องหมุนเวียน
นำกล่องสภาพดีมาใช้ซ้ำ
โครงการกล่องหมุนเวียนของบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยการนำกล่องกระดาษลูกฟูกที่ยังคงอยู่ในสภาพดีมาใช้ซ้ำ เพื่อลดความจำเป็นในการผลิตกล่องใหม่ โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่ เช่น กระดาษและพลังงานในการผลิต แต่ยังช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด
‘ปัญจพลไฟเบอร์ฯ’ โครงการบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม
โครงการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนของบริษัท ปัญจพลไฟเบอร์คอนเทนเนอร์ จำกัด เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้และลดการใช้ทรัพยากรใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการนี้สนับสนุนกระบวนการรีไซเคิลตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการจัดการหลังการใช้งาน เพื่อลดปริมาณขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย
‘เค.เอฟ.พาราวูด’ โครงการบรรจุภัณฑ์ไม้เพื่อความยั่งยืน
โครงการบรรจุภัณฑ์ไม้เพื่อความยั่งยืนของบริษัท เค.เอฟ.พาราวูด จำกัด มุ่งเน้นการออกแบบและผลิตพาเลทไม้โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โครงการนี้ใช้วัตถุดิบจากไม้ที่ได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน เพื่อลดการใช้ไม้ใหม่และสนับสนุนการใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
‘เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน’ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมบำบัด กำจัดของเสีย
การจัดการของเสียอย่างยั่งยืนของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งการบำบัด การกำจัดของเสีย และการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การผลิตพลังงานจากขยะและการทำเชื้อเพลิงผสม โครงการนี้ช่วยลดปริมาณของเสียที่ต้องฝังกลบ และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
‘โชคยืนยงอุตสาหกรรม’ นำน้ำเสียผ่านกระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพ
โครงการด้านความยั่งยืนในการจัดการของเสียของ บริษัท โชคยืนยงอุตสาหกรรม จำกัด มีการนำน้ำเสียจากกระบวนการผลิตไปผ่านกระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพ ซึ่งก๊าซชีวภาพที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้า ส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
‘แรบบิท แคช’ มอบความรู้ทางการเงินพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงาน
โครงการส่งมอบความรู้ทางการเงินเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานของ บริษัท แรบบิท แคช จำกัด มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) ด้าน “S” (Social) โดยการให้ความรู้และทักษะในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลช่วยให้พนักงานสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระหนี้สินและความเครียด ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่สนับสนุนความเป็นอยู่ของพนักงาน แต่ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรในระยะยาว
‘ยูเอซีเจ ประเทศไทย’ รีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียมหมุนเวียนแบบวงจรปิด
โครงการรีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียมหมุนเวียนแบบวงจรปิดของ บริษัท ยูเอซีเจ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโครงการที่สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยใช้หลักการนำกระป๋องอลูมิเนียมที่ผ่านการใช้งานแล้วกลับมารีไซเคิลเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่อย่างต่อเนื่อง กระบวนการนี้ช่วยลดการใช้วัตถุดิบใหม่และลดการปลดปล่อยคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์
‘ทีพีเอ็น แพคเกจจิ้ง’ จัดหาวัตถุดิบเพื่อความยั่งยืน
โครงการการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบของบริษัท ทีพีเอ็น แพคเกจจิ้ง จำกัด มุ่งเน้นการปฏิบัติตามนโยบายการจัดหาวัตถุดิบและสินค้าที่คำนึงถึงความยั่งยืน โดยปฏิบัติตามจรรยาบรรณทางธุรกิจและหลักปฏิบัติด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด
ต้องใจ ยังบอกด้วยว่า การมอบรางวัลครั้งนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้ซัพพลายเออร์และคู่ค้าปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน การจ้างงานอย่างเป็นธรรม และการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ ซึ่งช่วยสร้างความโปร่งใสและความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ที่ยังพร้อมสานต่อกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันทั้งในระยะสั้น และระยะยาวของเครือข่าย TSCN
“เราผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับประเทศและภูมิภาค โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อตอบสนองนโยบายของประเทศไทยในการที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2598
โดยคณะผู้ร่วมก่อตั้ง TSCN มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคู่ค้าในเครือข่ายให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจัดอบรม Train-the-Trainers ภายใต้ Thailand Sustainability Academy (TSA) ในช่วงงาน SX 2024 ที่ผ่านมา เพื่อสร้างขีดความสามารถให้กับคณะทำงานของ TSCN ให้มีศักยภาพในการอบรมคู่ค้ารายย่อยให้สามารถจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงการจัดทำแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนเองได้อย่างชัดเจน”
เปิดบริการ TSCN Platform
สร้างเครือข่ายผ่านช่องทางออนไลน์
นอกจากกิจกรรมมอบรางวัลดังกล่าววแล้ว ‘ต้องใจ’ ระบุว่า เพื่อเป็นการต่อยอดความร่วมมือและขยายเครือข่ายไปสู่ภาคธุรกิจในวงกว้าง TSCN ได้เปิดให้บริการระบบ TSCN Platform (https://thailandsupplychain.com/) เครือข่ายสังคมธุรกิจออนไลน์ สำหรับเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ
9 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้ง TSCN
ลงนามเจตนารมณ์แนวทางปฏิบัติคู่ค้า
ขณะเดียวกัน 9 องค์กรธุรกิจไทยที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายฯ ยังลงนามประกาศเจตนารมณ์แนวทางปฏิบัติคู่ค้าของ TSCN หรือ TSCN Business Partner Code of Conduct เพื่อเป็นแนวทางให้สมาชิกยึดถือและปฏิบัติตามคุณค่า และหลักการ ได้แก่ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การป้องกันมลพิษ, การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ประกอบด้วย สิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน การมีส่วนร่วมของชุมชน, การมีธรรมาภิบาลและจริยธรรม ประกอบด้วย ต่อต้านการทุจริต ความโปร่งใสและการรายงาน การจัดซื้อจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ