ธนาคารเป็นอีกหนึ่งสถาบันสำคัญที่มีส่วนผลักดันด้านความยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน แต่จำเป็นต้องสร้างโซลูชันเพื่อตอบโจทย์โดยเฉพาะด้านตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืนที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในธุรกิจ
ร่วมปรับตัวผ่านการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายความยั่งยืน
เป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นการลงทุนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความอยู่รอด และความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว (ESG Finance) ผ่านการให้บริการสินเชื่อโครงการ การซื้อขาย ควบรวมกิจการ และการเสนอขายหุ้นสามัญ (IPO) มีส่วนร่วมกำหนดมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Thailand Taxonomy)
อีกทั้งยังต้องทำหน้าที่บริการที่ปรึกษาด้านวาณิชธนกิจเพื่อเตรียมความพร้อมช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาได้ส่งเสริมธุรกิจให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้มียอดสินเชื่อเติบโต คิดเป็นอัตราประมาณ 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการให้บริการด้านการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อและการระดมทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน สำหรับบริการของกรุงศรี อาทิ การให้การสนับสนุนสินเชื่อ และการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตรและหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนและเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่หลายองค์กรสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังให้การช่วยเหลือในการปรับตัวผ่านการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายความยั่งยืน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
นอกจากนี้ ได้มีส่วนร่วมกำหนดมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Thailand Taxonomy) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยร่วมมือกับอีก 13 เครือข่ายองค์กร เพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเข้าถึงบริการทางการเงินที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับผลการดำเนินงานร่วมทุน กรุงศรี ได้ปิดดีลใหญ่ หนุนธุรกิจโตได้ โตไกลอย่างยั่งยืน เข้าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้กลุ่มลูกค้าธุรกิจประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนผ่านดีลสำคัญมากมายรวมมูลค่าทั้งสิ้นราว 60,000 ล้านบาท อาทิ
หนุนธุรกิจเสริมแกร่ง
ลงทุนปรับโครงสร้างเปลี่ยนผ่านยั่งยืน
– การเป็นผู้จัดการเงินกู้ร่วมและผู้ประสานงานด้านดัชนีความยั่งยืน สนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan: SLL) ให้กับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มูลค่า 11,500 ล้านบาท
– การเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) และเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแต่เพียงผู้เดียว ให้กับบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP) มูลค่า 3,000 ล้านบาท
– การให้การสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) แก่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 500 ล้านบาท
– การเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนและเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับหลายองค์กรสำคัญ ได้แก่
– พันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยมูลค่า3,500 ล้านบาท
-หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มูลค่า 8,000 ล้านบาท
– หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ของบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) มูลค่า 7,000 ล้านบาท
– หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Debenture) โดยบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มูลค่า 6,500 ล้านบาท
-หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ของบริษัท ราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มํูลค่า 1,000 ล้านบาท
– หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) มูลค่า 500 ล้านบาท
กรีนบอนด์ 400 ล้านเหรียญ
เพิ่มความมั่งคั่งทรัพยากร
-ระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) และตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Bond) เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล มูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากความเชี่ยวชาญและความสำเร็จทางธุรกิจในด้าน ESG กรุงศรีได้ให้บริการที่ปรึกษาในดีลสำคัญอีกมากมาย อาทิ
– การสนับสนุนการทำธุรกรรม Index Transition ให้กับลูกค้าตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เปลี่ยนผ่าน Index ของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจาก Thai Baht Interest Rate Fixing (THBFIX) เป็น Thai Overnight Repurchase Rate (THOR)
– ความร่วมมือกับ MUFG ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Structured Trade Finance เพื่อบริษัทในกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
– การนำเสนอบริการด้านดิจิทัล อาทิ บริการ Direct Debit API, Payment API, One Payment Application, Cash Link, Corporate CHQ และ Credit Product Program เพื่อช่วยยกระดับการบริหารจัดการ และช่วยอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินให้กับลูกค้า
รุดหน้าสร้างโซลูชันเพื่อธุรกิจ ยกระดับบริการที่ปรึกษา ตอบโจทย์การแข่งขันให้ธุรกิจแบบครบวงจร ด้วยการเติบโตของความต้องการด้านเงินทุน แนวโน้มการขยายธุรกิจสู่เวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ และแนวคิดการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินงานของกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจในปี 2567 จึงมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมกันกับการเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านวาณิชธนกิจ เพื่อช่วยยกระดับการแข่งขันให้กับธุรกิจไทยแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วยแผนการดำเนินงานดังนี้
1. มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อส่งเสริมลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านสู่เส้นทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยฝ่าย ESG Finance (ESG Finance Department or EFD) เดินหน้าให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินเพื่อความยั่งยืน (ESG Finance) รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยวางแผนในช่วงการเปลี่ยนผ่าน โดยจะปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับเครือข่าย ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (MUFG) พร้อมเดินหน้าจัดระเบียบพอร์ตสินเชื่อของธนาคารตามมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Thailand Taxonomy) นอกจากนี้ จะยังคงสานต่อกิจกรรมการให้ความรู้ผ่านเวทีสัมมนาต่างๆ โดยจะจัดงานสัมมนาครั้งใหญ่ Krungsri-MUFG ESG Symposium 2024 เพื่อช่วยส่งเสริมระบบนิเวศด้านความยั่งยืนให้กับประเทศไทย
2. เพิ่มศักยภาพการบริการด้านวาณิชธนกิจ โดยมุ่งเน้นการให้บริการด้านการให้คำปรึกษาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ผ่านการร่วมมือกับทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป เครือข่ายระดับโลกของ MUFG และเครือข่ายธนาคารพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสนับสนุนการให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ครบถ้วนและตรงตามความต้องการ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การระดมทุนจากการกู้ยืม การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ (Debt Capital Markets) การทำสินเชื่อโครงการ (Project Finance/Structure Finance) ในหลายๆ อุตสาหกรรมทั้งพลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน การซื้อขายและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions) การระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน (Equity Capital Markets) โดยในปีที่ผ่านมามีการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ให้กับหลายบริษัท เช่น บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (SAV) ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยประกอบธุรกิจให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศของประเทศกัมพูชาภายใต้สัมปทานแต่เพียงผู้เดียว
รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) ในการเพิ่มการลงทุนในทรัพย์สินประเภทศูนย์ข้อมูล ให้บริการการเสนอขายหุ้น IPO กับองค์กรในอีกหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง นอกจากนั้นกรุงศรียังให้บริการที่ปรึกษาในการซื้อและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions) โดยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการร่วมทุนในโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทยรวมกับพันธมิตรซึ่งเป็นนักลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืน
โดยธนาคารฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้รากฐานของการบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และด้วยองค์ความรู้ ทีมงานมืออาชีพ และความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายของกรุงศรี กรุ๊ป และ MUFG จึงมั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจรและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมครอบคลุมตลาดทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญจะยังคงสานต่อการสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนตามโมเดล ESG โดยเฉพาะในช่วงเวลาปรับตัว เพื่อนำพาลูกค้าก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน