‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย’ บ่มเพาะความรู้การจัดการน้ำทั้งระบบสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ เฟ้นหาโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ จุดประกายเยาวชนไทย ตัวแทนทูตรักษ์น้ำเพื่อคนยุคถัดไป
ต้นเหตุของปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำของไทย เกิดจากการบริหารจัดการอย่างไม่เป็นระบบ จึงเกิดปัญหาน้ำแล้ง น้ำขาด น้ำเกิน น้ำเสียทุกปี ขาดความรับผิดชอบในการจัดการบำบัด ทั้งจากภาคเกษตร การเพาะปลูก ปศุสัตว์ ธุรกิจการบริการ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ตลอดจนภาคการผลิต โรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงการขาดการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ปัจจุบันเกิดขึ้นในระดับวิกฤตในหลายพื้นที่และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สาเหตุ การขาดแคลนน้ำ
1. ใช้น้ำฟุ่มเฟือย
2. ขาดการอนุรักษ์อย่างจริงจัง
3. ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล
4. แหล่งน้ำธรรมชาติถูกบุกรุกและตื้นเขิน
5. ความต้องการเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากร
6. แหล่งเก็บกักน้ำไม่เพียงพอ
7. ประชาชนขาดจิตสำนึกในการใช้ประโยชน์จากน้ำ
สิ่งเหล่านี้จึงต้องเริ่มปลูกฝังความรู้และความรับผิดชอบตั้งแต่ระดับเยาวชน
บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวทางในการบริหารจัดการน้ำผ่านโครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่บริษัทจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 5 เพื่อปลูกฝังเยาวชน เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการที่ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียน บุคลากรในโรงเรียน ตลอดจนครอบครัวและชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำในชีวิตประจำวัน
บ่มเพาะองค์ความรู้
นิวเจนรักษ์น้ำ นอกห้องเรียน
โครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ประจำปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ร่วมมือจากภาคีภาครัฐร่วมเป็นพันธมิตร ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดระยอง และจังหวัดสระบุรี สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งยังผนึกกำลังกับ “กล่องวิเศษ” กลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ร่วมขับเคลื่อนพันธกิจในการจุดประกายให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ผ่าน 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1) กิจกรรมค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ (Water Youth Camp) คัดเลือกโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดระยอง และสระบุรี รวมทั้งสิ้น 20 โรงเรียน โดยมีแกนนำนักเรียนและตัวแทนคุณครูเข้าร่วมค่ายเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน มุ่งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องทรัพยากรน้ำผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียน พร้อมพัฒนาศักยภาพของแกนนำนักเรียนที่เข้าร่วม เพื่อขยายผล “ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” สู่โรงเรียนของน้อง ๆ
2) การประกวดโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ “มิซุอิกุ” ตัวแทนคุณครูและแกนนำนักเรียนนำเงินสนับสนุนจากโครงการฯ ไปดำเนินโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนแบบบูรณาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ นโยบาย การมีส่วนร่วมของบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และการขยายผลสู่ชุมชนโดยรอบ พร้อมทั้งจัดตั้ง “มิซุอิกุ คลับ” เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการ
ปั้นเยาวชน
ทูตรักษ์น้ำกว่า 5,750 คน
นางสาวเพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ค่านิยมองค์กร ‘การเติบโตอย่างยั่งยืน’ หรือ ‘Growing for Good’ เรามุ่งมั่นเสริมสร้างองค์ความรู้เรื่องทรัพยากรน้ำ พร้อมจุดประกายให้เยาวชนมีส่วนร่วมอนุรักษ์น้ำและรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งความสำเร็จของโครงการฯ นี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่พันธมิตรภาครัฐทุกหน่วยงาน รวมถึงคณะคุณครูและนักเรียนที่มีส่วนร่วมทำให้โครงการในปีนี้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อมั่นว่าผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯ จะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยของเรา
โครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ประจำปี 2566 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยมีโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 20 โรงเรียน ได้เข้าร่วมทั้ง 2 กิจกรรม คือค่ายเยาวชนรักษ์น้ำและการประกวดโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ “มิซุอิกุ” นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียนแกนนำและตัวแทนคุณครูยังได้นำความรู้ที่ได้จากค่ายเยาวชนรักษ์น้ำไปต่อยอดกิจกรรมภายในโรงเรียนของตน ทำให้มีนักเรียนระดับประถมศึกษามีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้มากถึง 5,750 คน และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ได้ส่งมอบองค์ความรู้เรื่องทรัพยากรน้ำให้แก่เด็กนักเรียนรวมทั้งสิ้นกว่า 20,250 คน สำหรับผู้ชนะการประกวด โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ “มิซุอิกุ” ประจำปี 2566 ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลรักภาษา จังหวัดระยอง และโรงเรียนวัดแพะโคก จังหวัดสระบุรี
องค์ความรู้ ควบคู่ ทัศนคติ
นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำว่า ในนามของกรมทรัพยากรน้ำ ขอแสดงความยินดีกับซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย และชื่นชมโรงเรียนและน้อง ๆ ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ ในปีที่ผ่านมา ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้กับประเทศของเรา ที่สำคัญ การดำเนินงานของโครงการฯ มีความสอดคล้องกับภารกิจของกรมทรัพยากรน้ำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการกำกับ ควบคุม อนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศ ด้วยเหตุนี้ เราจึงยินดีที่จะให้การสนับสนุนโครงการฯ เพื่อร่วมปลูกจิตสำนึกที่ดีในหมู่เยาวชนให้ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน”
“ในฐานะหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำและบริหารจัดการมลภาวะทางน้ำโดยตรง กรมควบคุมมลพิษมีความยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ มาอย่างต่อเนื่อง เราตระหนักดีว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแบบองค์รวมจะต้องดำเนินการนับตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และสิ่งแรกที่ควรปลูกฝังคือทัศนคติและองค์ความรู้ของผู้คน โดยเฉพาะกับเยาวชนที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เพราะเขาเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของเราต่อไป” นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวสรุปถึงความสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน
ทั้งนี้ ผู้ชนะการประกวดโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ “มิซุอิกุ” ประจำปี 2566 นำโดย ดร.สุนิสา สก๊อต ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลรักภาษา จังหวัดระยอง และ นางเรวดี ทองอุ่นเรือน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแพะโคก จังหวัดสระบุรี ได้ร่วมกันแสดงความเห็นถึงโครงการฯ ว่า “ในนามของคณะครูและนักเรียน เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกเป็น โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ ‘มิซุอิกุ’ ประจำปี 2566 โดยนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ มาบูรณาการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในโรงเรียน ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
· ด้านนโยบาย: กำหนดนโยบายและมาตรการในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน
· ด้านการมีส่วนร่วมของบุคลากร: จัดการอบรมและกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำ เพื่อให้คุณครู นักเรียน และบุคลากรในโรงเรียน มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้น้ำและพลังงานอย่างรู้คุณค่า พร้อมทั้งจัดตั้ง ‘มิซุอิกุ คลับ’ เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมอนุรักษ์น้ำในโรงเรียน
· ด้านโครงสร้างพื้นฐาน: ใช้อุปกรณ์แบบประหยัดน้ำและส่งเสริมการหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยติดตั้งระบบเก็บกักน้ำฝนเพื่อนำไปใช้รดน้ำต้นไม้ สร้างระบบบำบัดน้ำล้างจานเพื่อนำไปใช้รดน้ำในสวนผัก
· ด้านการขยายผลสู่ชุมชนโดยรอบ: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการประหยัดน้ำที่บ้านของนักเรียนผ่านกิจกรรมการแข่งขันลดการใช้น้ำ และรณรงค์การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในชุมชนรอบโรงเรียนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย จะเดินหน้าสานต่อโครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” เพื่อเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและส่งต่อให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป โดยในปี 2567 นี้ จะยกระดับการจุดประกายเยาวชนไทยเป็น “ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ” ผ่านโครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ” (One Suntory Mizuiku Program) ซึ่งจะร่วมมือกับ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จํากัด คาดว่าจะเริ่มดำเนินกิจกรรมในช่วงเดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป