Nestlé ปฏิรูปเกษตร นำร่องผลิตปุ๋ยโกโก้คาร์บอนต่ำป้อนเครือข่าย

Nestlé ปฏิรูปเกษตร นำร่องผลิตปุ๋ยโกโก้คาร์บอนต่ำป้อนเครือข่าย


Nestle เปิดตัวโครงการนำร่องเพื่อประเมินว่าเปลือกโกโก้สามารถนำมาใช้สร้างปุ๋ยคาร์บอนต่ำ หนึ่งในกลยุทธ์ธุรกิจยั่งยืน ปี 2050 ได้จุดประกายให้เนสท์เล่ ต้องการปฏิรูปภาคการเกษตร ด้วยการทดสอบแนวคิดใหม่ พัฒนานวัตกรรมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

 

การเปิดตัวโครงการนำร่องผลผลิตจากเปลือกโกโก้ หลังจากผลิตขนมหวานในยอร์กสามารถนำมาใช้สร้างปุ๋ยคาร์บอนต่ำ นี่คือคำถามที่เริ่มทดลอง ใช้ระยะเวลา 2 ปี เข้าไปประเมินประสิทธิภาพของปุ๋ยต่อการผลิตพืช สุขภาพของดิน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) หากประสบความสำเร็จ จะสามารถผลิตปุ๋ยคาร์บอนต่ำได้มากถึง 7,000 ตัน ที่จะไปเสนอขายให้กับเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวสาลีของ Nestlé ในสหราชอาณาจักร ปริมาณปุ๋ยนี้ช่วยทดแทนปริมาณ 25% ของการใช้ปุ๋ยข้าวสาลีทั้งหมดใน Nestlé UK

การผลิตและการใช้ปุ๋ยทั่วไปคิดเป็นประมาณ 5% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก หากลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนสามารถการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึงหนึ่งใน5 ของระดับปัจจุบัน และคาดว่าภายในปี 2050 มากกว่าครึ่งหนึ่งของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของข้าวสาลีที่ปลูกในสหราชอาณาจักรนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้ปุ๋ย

การคิดค้นวิธีการรีไซเคิลสารอาหารที่มีคุณค่าจากของเสียภายในระบบอาหาร เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง การขยายขนาดการผลิตปุ๋ยคาร์บอนต่ำสามารถช่วยให้เกษตรกรได้รับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้นในราคาที่เชื่อถือได้

เปลือกโกโก้ได้รับการจัดหาโดย Cargill ใช้ในการแปรรูปในโรงงานโกโก้ ที่เมืองยอร์ก เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในแบรนด์ดัง เช่น เช่น KitKat
และ Aero และยังนำไปประมวลผลและอัดเป็นก้อนโดย CCm Technologies จากสวินดอน

“เกษตรกรมักจะพบว่าตนเองเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลก และความเสี่ยงเหล่านี้ก็ตกเป็นภาระของระบบอาหารที่เราทุกคนต้องพึ่งพา เราจึงต้องค้นหาวิธีสร้าง ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต ให้ยืดหยุ่น ให้มีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ” ” แมตต์ ไรอัน หัวหน้าฝ่ายฟื้นฟูของ Nestle UK และไอร์แลนด์ กล่าว

“ถือว่าโครงการเป็นจุดเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ แต่จะเป็นการทดลองที่ช่วยขยายผลไปสู่การพัฒนาภาคการผลิตที่ไร้คาร์บอน ที่จะส่งผลดีต่อทุกฝ่ายในห่วงโซ่ ตั้งแต่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน จนถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

สำหรับ ผลงานทดลองรับการออกแบบและดูแลโดย Fera Science Ltd ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในยอร์ก กำลังดำเนินการในฟาร์มเพาะปลูกในซัฟฟอล์กและนอร์ธแฮมป์ตันเชียร์ ได้ประสบความสำเร็จ

Richard Ling ผู้จัดการฟาร์มที่ Rookery Farm, Wortham ใน Norfolk ซึ่งเป็นผู้จัดหาข้าวสาลีให้กับ Nestlé Purina กล่าวว่า ” หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในฤดูหนาวได้สำเร็จ โดยการใช้ปุ๋ยจากเปลือกโกโก้ที่คุณภาพไม่แตกต่างกันกับปุ๋ยทั่วไป ”

โครงการนี้เป็น ต้นแบบ ของการคิดค้นการแก้ไขปัญหา โดยใช้นวัตกรรมที่เนสท์เล่ เดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

นอกจากนี้ เนสท์เล่ ตั้งเป้าหมายที่จัดหาส่วนผสมในการผลิตหลัก 50% จากวิธีการเกษตรแบบปฏิรูปภายในปี 2030 ที่เนสท์เล่ มุ่งเน้นการปฏิรูป ที่จะต้องทำงานร่วมกับเกษตรกรในประเทศต่างๆ เช่น ไอวอรี่โคสต์และกานาอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับโกโก้

ที่มา: https://esgnews.com/