ควายป่า 1 ใน 7 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งผืนป่าตะวันตก

ควายป่า 1 ใน 7 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งผืนป่าตะวันตก


ควายป่า หรือมหิงสา (Wild Water Buffalo) รูปร่างผิวเผินอาจดูคล้ายคลึงกับควายบ้าน และมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า รูปร่างกำยำล่ำสำ มีวงเขาตีโค้งกว้างกว่า และดุร้ายกว่าควายบ้านเป็นอย่างมาก ลำตัวมีสีเทาหรือสีน้ำตาลดำ ขาทั้ง 4 มีสีขาวแต้มคล้ายใส่ถุงเท้าทั้ง 4 ข้าง ท่อนล่างของลำตัวเป็นลายสีขาวรูปตัววี

 

ลักษณะพฤติกรรมทางสัมคมของควายป่า มักอยู่รวมกันเป็นฝูง และตัวผู้มักอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง ถิ่นอาศัยของควายป่าในห้วยขาแข้ง พบอยู่ตามที่ราบริมห้วยขาแข้ง และตามหนองน้ำที่ปกคลุมด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าไผ่ และป่าทุ่งหรือไร่ร้าง บริเวณที่ราบริมลำห้วยขาแข้งทางตอนใต้ของพื้นที่

อดีต ควายป่าเคยอาศัยอยู่ตามป่าทุ่งโปร่ง พบได้เกือบทุกภูมิภาคในประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ แต่ปัจจุบันคงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี พบการกระจายตัวตลอดแนวลำห้วยขาแข้ง โดยอยู่ห่างจากลำห้วยประมาณ 50 ถึง 100 เมตร พบเห็นได้บ่อยบริเวณ ห้วยแม่ดีทางใต้ หน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได ห้วยหินตั้งลงไปทางใต้จนถึงหน่วยพิทักษ์ป่ากรึงไกร ซึ่งมีประชากรทั้งสิ้นไม่ถึง 50 ตัว ถือเป็นควายป่าฝูงเดียวและฝูงสุดท้ายในประเทศไทย ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง

ควายป่าเป็นสัตว์กินพืช (Herbivore) กินได้ทั้งหญ้า ยอดไม้ ใบไม้อ่อน หน่อไม้ รวมถึงต้นพงที่ขึ้นอยู่ตามริมลำห้วยขาแข้ง ก็เป็นเมนูโปรดของควายป่าเช่นกัน และยังมีการเสริมแร่ธาตุให้กับร่างกาย โดยการกินดินโปร่งที่มีแร่ธาตุต่าง ๆ ในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน และช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

ปัจจัยคุกคามสำคัญที่ทำให้ควายป่าอยู่ในสถานภาพเสี่ยงสูญพันธุ์อย่างยิ่ง เกิดจากการสูญเสียถิ่นอาศัย การล่า การแย่งพื้นที่และทรัพยากรอื่น ๆ การผสมพันธุกรรมระหว่างควายป่า และควายบ้าน รวมถึงปัญหาการผสมพันธุ์กันในเครือญาติ ทำให้เกิดปัญหาเลือดชิด (Inbreeding)

ปัจจุบันควายป่าจัดเป็นสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ฉบับ 2562 ที่หมายถึงว่าเราต้องสงวนไว้อย่างยิ่งยวด

ไม่เพียงแต่ควายป่าที่อยู่ในสถานภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างยิ่ง แต่ยังมีสัตว์ป่าอีกมากมายที่ประชากรมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง เราคงต้องตั้งคำถามต่อไปว่า ที่สัตว์ป่าหลายชนิดอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเพราะกิจกรรมจาก ‘มนุษย์’ ใช่หรือไม่ เป็นเพราะเราทุกคนใช่หรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่ควายป่าที่เราจะรักษาไว้ไม่ได้ แต่นั่นหมายถึงเราไม่ตระหนักถึงการอนุรักษ์ และไม่เห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ท้ายที่สุดมนุษย์จะทำลายทุกอย่าง ไม่หลงเหลือสิ่งมีชีวิตใดบนโลก รวมถึงตัวมนุษย์เองก็ไม่สามารถอยู่รอดบนโลกที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้

ที่มา: ภัสราภรณ์ ล้อประกานต์สิทธิ์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

เผยข่าวดี ต้อนรับ “น้องกอบการ” ตัวแทนของมวลชนฯ และเครือข่ายการอนุรักษ์พันธุ์วัวแดงป่าสลักพระ
https://www.thaiquote.org/content/250114

กบแก้วใส ‘หายไป’ ในเวลากลางคืนโดยซ่อนเซลล์เม็ดเลือดแดงในตับ
https://www.thaiquote.org/content/250093

นกหัวโตหนุมานกลับมาเป็นสายพันธุ์หลักอีกครั้งในรอบ 86 ปี
https://www.thaiquote.org/content/250033