1 พ.ย.64 นับถอยหลังอีกไม่วัน ก่อนถึงวันที่รัฐบาลกำหนดเปิดประเทศรับนักเดินทางจาก 46 ประเทศเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังลุ่มๆดอนๆ แต่สังคม เศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของคนไทยต้องเดินหน้าต่อไป
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เกือบ 2 ปีที่มีการระบาดของโควิด 19 ไปทั่วโลกและเราคุ้นเคยกับคำว่าวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)
จากนี้ต่อไป เชื้อโควิคคงไม่ได้หมดไป เราจะต้องอยู่กับไวรัสโควิด เราจะอยู่กับ วิถีชีวิตปกติต่อไปข้างหน้า (Next Normal) หลังโควิด
การดำรงชีวิตปกติ “Next Normal” ทุกคนจะต้องปรับตัว เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือ การกำหนดระยะห่าง การใส่หน้ากากอนามัย ยังคงต้องอยู่อีกระยะหนึ่ง
การใช้อุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จะลดการสัมผัสลง การใช้เงินผ่านระบบ emoney ที่เงินลอยไปลอยมาโดยไม่ต้องจับธนบัตร เทคโนโลยีต่างๆ จะเปิดปิดไฟด้วยเสียง สั่งผ่านสมาร์ทโฟน ประตูมีเซ็นเซอร์
การใช้ลิฟท์ก็คงไม่ต้องแตะกดปุ่ม ที่ปุ่มจะมีเซ็นเซอร์เพียงเอานิ้วมือไปใกล้ก็เพียงพอไม่ต้องสัมผัส การล้างมือใช้ห้องน้ำ จะลดการสัมผัสอย่างที่เราเห็น ยื่นมือเข้าไปน้ำไหลออกมา เพื่อลดการติดต่อของโรค จะมีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาแทนมนุษย์มากขึ้น
สถาปนิกออกแบบห้องประชุม เก้าอี้ม้านั่งก็คงจะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบออกไป โดยเน้นระยะห่างมากขึ้น ระบบเครื่องปรับอากาศที่ปลอดภัย
การทำงานที่บ้านมากขึ้น (WFH) เรียนที่บ้านมากขึ้น ใช้เวลาอยู่บ้านนานขึ้น อุปกรณ์ เครื่องใช้ อำนวยความสะดวก ในบ้าน รวมทั้งเครื่องช่วยออกกำลังกาย จะมีความต้องการสูงขึ้น
ของกิน ของใช้ จะเน้นสุขภาพมากยิ่งขึ้น อาหารที่กินจะมีการคำนวณปริมาณสารอาหาร ตามความต้องการของร่างกาย
ที่จริงสิ่งต่างๆก็จะเกิดขึ้นอยู่แล้วในอนาคต แต่จากการระบาดของโรคโควิด จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดวิถีชีวิตปกติต่อไป (Next Normal) เร็วขึ้น