Passion ของ “อาจารย์แหม่ม” เป้าหมายที่ใหญ่กว่า “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พปชร.”

Passion ของ “อาจารย์แหม่ม” เป้าหมายที่ใหญ่กว่า “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พปชร.”


โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote

เป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมจะมอง “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ล่าสุดยังได้ตำแหน่งเป็นเหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายใต้การกุมบังเหียนพรรคคนใหม่คือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ผงาดมาเป็นหัวหน้าพปชร.เพื่อลุยสนามการเมืองอย่างเต็มตัว

ประเด็นที่สังคมมองมายังอาจารย์แหม่ม หลังมีกระแสว่าอีกหน้าที่ที่ถูกวางตัวให้ทำงานด้านเศรษฐกิจ ก่อนที่อนุชา นาคาศัย เลขาธิการ พปชร.คนใหม่จะออกโรงว่า นฤมล เข้ามาดูแลเรื่องเศรษฐกิจในพรรคเท่านั้น ไม่ได้ออกไปวางแผนงานเศรษฐกิจกับทางรัฐบาล


จะเป็นการแก้ต่างว่าเกิดความสับสนในการเสนอข้อมูลข่าวสาร หรือสุดท้ายจะเป็นการโยนหินถามทางกันก่อน เพื่อเช็กเสียงของคนไทย คอการเมือง ว่าจะชื่นชอบหรือไม่ คำตอบนี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่เชื่อว่าระดับอย่างอาจารย์แหม่ม จะมองเพียงแค่งานเศรษฐกิจของพรรค วางแผนให้พรรคเพียงแค่นั้น จริงหรือ?

แต่หากมองตัวของอาจารย์แหม่ม จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ก็มีการคาดการณ์กันว่า เป้าหมายที่อยากเข้าไปทำงานคือ “กระทรวงการคลัง” แต่จะเป็นตำแหน่งแห่งหนใดนั้น ยังไม่มีเล็ดรอดออกมาเท่าใด กระนั้น ที่ผ่านมา นฤมลก็เคยเป็นถึงผู้ช่วย รมว.คลัง มาแล้วในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรืองอำนาจ และจากจุดนี้เองที่ทำให้เธอที่เคยเป็นนักวิชาการ ที่ปรึกษาด้านการเงินหลายธนาคาร หลายองค์กร ก็ได้ก้าวเข้าสู่อาชีพนักการเมืองที่เต็มตัวมากขึ้นเรื่อยๆ

กระทรวงการคลัง จึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของอาจารย์แหม่มอย่างแน่นอน เพราะความคลุกคลีในครั้งที่เคยทำงาน รวมถึงกระทรวงการคลังยังเป็นสถานที่ที่สร้างชื่อ สร้างเครดิตได้หากว่าเข้ามาทำงานแล้วประสบความสำเร็จ การต่อยอดอาชีพทางการเมืองให้เจิดจรัสมากขึ้นก็จะเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

แต่คำถามคือ “มือถึง” หรือไม่ เพราะเจ้ากระทรวงที่ยังทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้ อย่างอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้า พปชร. ในฐานะ รมว.คลัง ก็เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจระดับฐานรากให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ยิ่งกับการเจอผลกระทบโควิด-19 แม้ว่าที่ผ่านมากระทรวงคลังจะวุ่นวายเพราะการเยียวยาไปบ้าง แต่ก็ถือว่าฝนตกทั่วฟ้า หยุดความรำคาญใจของคนไทยไปได้เกือบทั้งประเทศโดยเฉพาะผู้เดือดร้อน ก่อนที่งานต่อเนื่องจะเดินหน้าด้วยการเข้าไปช่วย SMEs ให้ยืนระยะได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงนี้ เพื่อให้อานิสงส์ส่งต่อไปยังการจ้างงาน เกิดเงินหมุนเวียนมากขึ้น

แต่ในอีกด้านหนึ่ง อาจารย์แหม่มในครั้งที่ทำงานในกระทรวงการคลัง ก็เคยฝากฝีมือเอาไว้จากการผลักดัน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือบัตรคนจนจนสำเร็จเป็นผลงานชิ้นโบแดง รวมถึงการเข้าไปแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบของคนไทย และวางแผนให้การเข้าถึงเงินทุน สินเชื่อของคนทั้งประเทศง่ายมากขึ้น

กระนั้น ก็ต้องไม่ลืมว่า ผลงานที่เกิดขึ้นเพราะอาจารย์แหม่มมีทีมหนุนหลังด้านเศรษฐกิจที่ช่ำชองอยู่แล้ว นั่นคือ ทีมของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่คุมงานเศรษฐกิจอยู่ทั้งหมดในช่วงเวลานั้น และหากคอการเมืองจำกันได้ การเร่งเครื่องทุกอย่างเพื่อให้ภาพความสำเร็จจะต้องเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที เพื่อใช้ต่อยอดไปสู่การเลือกตั้งที่ปูทางกันเอาไว้ เครื่องมือ บุคลากร เทคโนโลยีทุกอย่างจึงต้องถูกงัดนำมาใช้ และแน่นอนว่าโปรเจ็กของอาจารย์แหม่มในขณะนั้นก็สำเร็จได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งเชื่อได้อีกเช่นกันว่า หากวันข้างหน้าอาจารย์แหม่ม นฤมล จะเดินเข้าไปทำงานการกระทรวงการคลัง ก็น่าเชื่อว่าเธอจะพกเครดิตผลงานเรื่องนี้เข้าไปปูทางสู่งานสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หากมองในเรื่องแนวคิดของอาจารย์แหม่ม เมื่อครั้งที่ ThaiQuote มีโอกาสเปิดประตูห้องทำงานของเธอเมื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ “ผู้ช่วย รมว.คลัง” และได้สัมภาษณ์เรื่องแรงบันดาลใจของเธอเอง และได้รับแนวคิดที่สะท้านกลับมา

“ผู้ใหญ่ให้มาดูบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยตรง แต่เราอยากจะทำเพราะคือ Passion ของตัวเองด้วย เนื่องจากมาจากคนจน มีวันนี้ได้เพราะได้เรียนต่อจากทุนการศึกษาที่มาจากภาษีของประชาชน และไม่ใช่แค่ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่สร้างเราขึ้นมา หากแต่คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ประชาชนทุกคนต้องจ่ายต้องชำระ และมาทำงานก็ยังได้รายได้จากภาษีของประชาชนในการเลี้ยงชีพตัวเองอีก ก็เลยทำให้รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณของประชาชน ซึ่งก็ต้องทำงานเพื่อกลับคืนประโยชน์ไปให้กับประชาชน”

ประเด็นนี้อย่างที่บอกไว้ในบรรทัดแรก ว่าน่าติดตามอย่างมาก เพราะแน่นอนว่าคนใหม่ ก๊วนใหม่ เข้ามากุมบังเหียนพลังประชารัฐ แกนหลักของพรรคร่วมรัฐบาลจะเดินเกมอย่างไรต่อไปเพื่อพยุงให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่พรรคนี้สนับสนุนทำงานได้เอย่างราบรื่น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Passion ของอาจารย์แหม่ม ที่ต้องการงานใหญ่เพื่อสร้างผลงาน มากกว่าการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน แรงกระตุ้นนี้จะพานฤมลไปทิศทางใดสำหรับงานการเมืองก็น่าสนใจ

ท้ายสุดสิ่งสำคัญที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวว่าเขา “จะเลือกใครมาทำงานให้”

 

เรื่องที่น่าสนใจ

“พลังประชารัฐ” By ลุงป้อม โดนตั้งคำถามหนัก “เสี่ยแฮงค์-อ.แหม่ม” มีดีอะไร

“ฉีดให้ฝ่อ คือรักษา หาใช่โทษ” เปิดใจ “ส.ส.ส้ม” สวย-แกร่งลุยแก้ปัญหา “ข่มขืน”