โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.63 ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร. และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพปชร. ได้ร่วมหารือกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสหากรรม ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนการร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ บรรยากาศการมาหารือร่วมกันครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวความแตกแยกภายในพรรคพปชร.อย่างหนัก ถึงขนาดมีการบีบนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ พ้นจากการเป็นหัวหน้า และเลขาธิการพรรค โดยคาดว่า นายสมคิด ต้องการดึงจำนวนเสียงส.ส.จากกลุ่มสามมิตร เข้ามาอยู่ในกลุ่มของตัวเอง เพื่อใช้เป็นอำนาจในการต่อรอง
โดยแหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า บรรยากาศในที่ประชุมมีแสดงความคิดเห็นหลากหลายถึงการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนได้ข้อสรุปว่า จะใช้วิธีการประนีประนอม เนื่องจากมองว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร. เป็นผู้ใหญ่ที่ทางพรรคให้ความเคารพ และสถานการณ์เวลานี้ ไม่เหมาะที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง เนื่องจากทุกคนควรมุ่งไปแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 และดูแลความปลอดภัยของประชาชนมากกว่า
ก่อนที่ภาพความคลางแคลงใจดังกล่าว ต้องพักไว้ชั่วขณะ เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร. โดยกล่าวว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น ตำแหน่งหัวหน้าพรรคยังคงมีนายอุตตม ดำรงตำแหน่งเช่นเดิม ขณะนี้ยังไม่มีอะไร
ตามรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 1.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค 2.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค 3. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค 4.นายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรค 5.นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค 6.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค 7.นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ 8.นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค 9.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
10.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 11.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 12.นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ 13.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 14.นายอิทธิพล คุณปลื้ม 15.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 16.นายชวน ชูจันทร์ 17.นายสันติ กีระนันทน์ 18.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล 19.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 20.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 21.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 22.นายสุพล ฟองงาม 23.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 24.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 25.นายสุชาติ ชมกลิ่น 26.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 27.นางประภาพร อัศวเหม 28.นายนิโรธ สุนทรเลขา 29.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ 30.นายสกลธี ภัททิยกุล 31.นายไผ่ ลิกค์ 32.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ 33.นายสุรชาติ ศรีบุศกร และ 34.นายนิพันธ์ ศิริธร
หากวิเคราะห์จากรายชื่อดังกล่าว และการรวมกลุ่มของ นายสมคิด นายสุริยะ และร.อ. ธรรมมนัส ทำให้ขณะนี้จะเหลือเพียง 2 กลุ่มใหญ่ จาก 4 กลุ่มใหญ่ที่อยู่ในพรรค แบ่งเป็นกลุ่มนายสมคิด+ สามมิตร จำนวน 18 คน และกลุ่มนายณัฏฐพล + กลุ่มอื่นๆ 16 คน ซึ่งหากในกลุ่ม 16 คนนี้ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด ก็สามารถที่จะจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้
ดังนั้นต่อจากนี้จึงต้องจับตาดูเกมล็อบบี้กรรมการบริหารพรรค ซึ่งตามที่ทราบกันว่ามีการยกหูโทรคุยเป็นรายบุคคลกันไปแล้ว ส่วนข้อตกลงจะเป็นอย่างไร คนที่เคยเลือกข้างไปแล้วและเปลี่ยนใจ คนที่ยังไม่เลือกข้างและกำลังตัดสินใจ ไม่นานต่อจากนี้กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นผู้ชี้ชะตาพรรคพลังประชารัฐ และนั่นอาจหมายถึงการชี้ชะตาเกมการเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมรัฐบาล และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย
ข่าวที่น่าสนใจ
“บิ๊กตู่” งัด “พรก.ฉุกเฉิน” เบรกผู้ว่าฯทั่วประเทศ คลายล็อกดาวน์