ตัดเกรด 7 วันเคอร์ฟิว 6 ชม. หากไม่ดี “บิ๊กตู่”พร้อมกักตัวคนไทยทั้งวัน

ตัดเกรด 7 วันเคอร์ฟิว 6 ชม. หากไม่ดี “บิ๊กตู่”พร้อมกักตัวคนไทยทั้งวัน


โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote

การประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาลที่กำหนดเวลาเข้าออกเคหะสถานให้คนไทย เพื่อใช้ต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายโควิด-19 กำหนดให้ดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไปนั้น โดยตั้งแต่เวลา 22.00 น.ไปจบเอา 04.00 ของอีกวัน ตลอดระยะเวลา 6 ชั่วโมงนี้คนไทยทุกคนจะต้องอยู่บ้าน

เว้นเสียแต่ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่จำเป็นจะต้องออกมาปฏฺิบัติหน้าที่ในยามนี้ตามที่กำหนดเอาไว้

เสมือนเป็นยาแรงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับอีกบทบาทที่สำคัญคือ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ต้องการอย่างหนักให้ทุกคนหยุดการแพร่เชื้อด้วยการเซฟตัวเองในบ้านพัก

สาเหตุหลักเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังคงมีสัดส่วนที่สูง แม้ว่าจะไม่เพิ่มขึ้นมากนักแต่มันก็ไม่ลดลง การบังคับใช้ด้วยเวลาเข้า-ออกแบบเคอร์ฟิว จึงเป็นอีกทางเลือกที่รัฐบาลเลือกมาบังคับใช้

การงดเข้า-ออกเคหะสถานตั้งแต่ “สี่ทุ่มถึงตีสี่” จะลากยาวไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่กระนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็พร้อมเสมอกับการใช้กฎหมายในมือหากว่าการบังคับให้คนอยู่ในบ้าน 6 ชั่วโมงกลางคืนมันไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ เลือกเอาการประเมินแผนนี้เอาไว้ 7 วันนับจากวันที่ 3 เมษายนเป็นต้นไป หากประเมินแล้วมันไม่ดีขึ้น ยาแรงที่แรงกว่าเคอร์ฟิว 6 ชั่วโมงจะถูกเรียกนำออกมาใช้ทันที

สิ่งนั้นคือการเคอร์ฟิวให้คนอยู่ในบ้านพักแบบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นการบังคับใช้เช่นนั้นจริงๆ ย่อมจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับอีกหลายคนในการใช้ชีวิตเลยทีเดียว

ดังนั้น เชื่อว่าหลายคนส่วนใหญ่ของเมืองไทยไม่ต้องการให้เกิดการกักตัวเอาแต่อยู่ในบ้านพักตลอด 24 ชั่วโมงเป็นแน่ สิ่งที่พอทำได้ในขณะนี้คือปฏิบัติตตัวตามคำแนะนำของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ความร่วมมือจากคนไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในวิกฤตนี้ เพราะความร่วมมือไม่แพร่เชื้อ จะช่วยให้ทั้งประเทศผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน

ข่าวที่น่าสนใจ