รู้จักทีม "อ.ส.ว." แก๊งนี้จะปกป้องรัฐบาลในศึก "อภิปรายไม่ไว้วางใจ"

จับตาวิปรัฐบาล เตรียมความพร้อมสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ พร้อม 5 รมว. สกัด“ทักษิณ” ปลุกพลังฝ่ายค้าน
โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote

ไล่เรียงดูไทม์ไลน์ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงวันที่ 24 ก.พ.-26 ก.พ.63 และจะมีการโหวตในวันที่ 27 ก.พ.63 ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 28 ก.พ.63 ก็ตาม แต่ขณะนี้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองดูจะคึกคักเป็นพิเศษ

วานนี้ (5 ก.พ.63) “สมคิด” พร้อม “อุตตม” ร่วมวงกินข้าวพร้อมกับ 40 ส.ส. กลุ่มสามมิตรที่รีเทริ์นกลับมาตั้งกลุ่มใหม่ ภายใต้การนำของ “สุริยะ” – “สมศักดิ์” และ “อนุชา” เพื่อรวบรวมทำข้อมูลการตอบโต้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปกป้อง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรีในสังกัด แต่นัยยะที่เซียนการเมืองมองคือประเด็น การต่อรอง โควต้ารมต. ในสังกัด หากมีการปรับครม.หลังเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

วันนี้ (6 ก.พ.63) วิปรัฐบาลจึงเดินเกมส์ ระดม ตัวละคร “อ.ส.ว.” ซึ่งหมายถึง 3 กลุ่ม คือ “กลุ่ม อ.” ที่มีอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทัพ ประสานงานส.ส.พปชร.รวบรวมข้อมูลช่วย รมต.ที่ถูกลากขึ้นเขียง งานนี้ “อนุชา” ต้องทุ่มสุดตัว พิสูจน์ผลงานให้ผู้ใหญ่เห็น ว่ากันว่า ถ้างานดี เจ๋งจริง โอกาสได้ตำแหน่ง รมต.มีแน่

“กลุ่ม ส.” นำโดย สุชาติ ชมกลิ่น ประธานส.ส.พปชร ที่ได้รับมอบหมายดูแลพรรคเล็ก งานไม่หนักแค่วางคิวจัดระเบียบให้ดี

“กลุ่ม ว.” กลุ่มนี้ วิรัตน์ รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ควบคุมดูแล ซึ่งต้องประสานงานพรรคร่วม โดยฝั่งภูมิใจไทยส่ง ชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และ ศุภชัย ใจสมุทร ประสานงาน

ขณะที่งานหนักหน่อยคือ ต้องคุยกับ แกนนำ ปชป. อย่าง เทพไท เสนพงศ์ และชินวรณ์ บุณยเกียรติ เพราะที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ ออกนอกลู่นอกทางบ่อย คุมยาก และหากยังทำตัวเป็นเด็กดื้อ เชื่อว่า เสร็จอภิปรายอาจมีเซอไพรส์แบบไม่สวยเกิดขึ้นได้

กลับมาดูฟากฝ่ายค้าน ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่า เพื่อไทย เหนื่อย แม้ภาพภายนอกจะสวย แต่เนื้อในก็เห็นว่าแต่ละพรรคต่างกังวลแต่เรื่องของตนเอง เริ่มต้นที่ อนาคตใหม่ แม้เลขาฯ อย่าง ปิยบุตร จะทำใจดีสู้เสือบอกเรียบร้อยดี และเตรียมข้อมูลพร้อมฉะรัฐบาล แต่เชื่อว่า ความกังวลของพรรคตอนนี้อยู่ที่ศาลรธน.นัดอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคจากคดีกู้เงินในวันที่ 21 ก.พ.63 มากกว่า หรือ เสรีรวมไทย ของ เสรีพิศุทธ์ ก็ตั้งธงแน่นอนมาจากบ้าน กับ ปม เรื่องถวายสัตย์ ซึ่งไร้น้ำหนัก และที่ผ่านก็พาให้ขบวนฝ่ายค้านซวนเซในหลายครั้งที่ต้องแพ้โหวต

ช้อยส์การบ้านของฝ่ายค้านที่มีอยู่ในมือ จึงมีแค่เรื่อง เศรษฐกิจ ซึ่งกำลังตกต่ำ และการนั่งเครื่องไทม์แมชชีนย้อนเวลาหาอดีตขุดเรื่อง รัฐบาลคสช. ขึ้นมาอภิปราย น้ำหนักการอภิปรายในสภาแค่นี้ เซียนการเมืองมองว่าหมดมุกด้วยประการทั้งปวง

โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ที่แว่วมาว่ารมต.บางคนแอบเสียใจที่ไม่มีชื่อถูกอภิปราย ด้วยเตรียมข้อมูลพีอาร์นโยบายเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงแบบเรียลเฟคเตอร์ไว้พร้อมแล้ว เพราะที่ผ่านมาจะใช้สื่อโซเชี่ยลพีอาร์ก็โดนดักทางทำลายภาพเสียหมด หากได้มีโอกาสชี้แจงในสภาฯ พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริงกันทั่วประเทศ

ไม่แปลกใจที่วันนี้ เราจึงต้องเห็นภาพนายใหญ่ ปรากฏตัวในข่าวทุกสำนัก เพราะความหมดมุกของฝ่ายค้าน จนร้อนถึงนายใหญ่ “ทักษิณ” ออกโรง วิพากษ์การทำงานของรัฐบาล ก็เพราะแค่คำพูด “ทักษิณ” ไม่กี่ประโยคมันปลุกใจสาวกให้กระตือรือร้นได้มากเอาการ แบบที่เรียกว่ามากกว่าคนในพรรคเพื่อไทย และฝ่ายค้านทุกคนรวมกัน

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
สุริยะ โวเสียงหนุนนายกฯเพียบไม่ต้องพึ่ง “งูเห่า”

กำหนดชัดแล้ว ศึกอภิปรายซักฟอก 6 รมต. เริ่ม 24 ก.พ.นี้

“ชวน” ยันไม่แก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลขอ