รองผบ.ตร. ยันหลักฐานแน่นจนจับ “ประสิทธิชัย”

รองผบ.ตร. ยันหลักฐานแน่นจนจับ “ประสิทธิชัย”


รองผบ.ตร. ยันมีหลักฐานแน่นหนาจนสามารถจับกุม “ผอ.กอล์ฟ” เผยหลักฐานได้มาเกือบครบทั้ง ปืน-ทอง-รถที่ใช้ก่อเหตุ ขาดท่อเก็บเสียงที่กำลัง ส่วนหลักฐานดีเอ็นเอจากเหงื่อไม่จริง ก่อนตั้งข้อหาอ่วม

วันที่ 23 มกราคม 2563 – ในการ แถลงคดีการจับกุมนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือผอ.กอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาคดีปล้นร้านทอง และฆ่า 3 ศพ ในพื้นที่จ.ลพบุรี โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เป็นผู้นำในการแถลงครั้งนี้

พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. หนึ่งในทีมสืบสวนของคดี กล่าวว่า ในการการสืบสวนเพื่อติดตามคนร้ายครั้งนี้ ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด จนเอาข้อมูลมาต่อกันมาถึงตัวผู้ต้องหาได้ โดยทาง กองปราบฯ ได้ข้อมูลมาจากสืบภาคหนึ่ง นครบาล ประกอบกับเรามีช่องทางการสื่อสาร ฐานข้อมูลเก่าๆ เกี่ยวกับกลุ่มแก๊งต่างๆ เมื่อมาสังเคราะห์กันแล้วก็สามารถระบุตัวได้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นจึงเฝ้าติดตาม จนกระทั้งพบหลักฐานต่างๆจนกระทั้งสามารถออกหมายจับนำไปสู่ปฏิบัติการจับกุมตัวได้ในครั้งนี้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐานต่างๆที่ นำไปสู่การจับกุมครั้งนี้ ขณะนี้ได้มาเกือบครบแล้วประมาณ11-12 รายการ ทั้งปืน ทอง 32 เส้น กระเป๋า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนที่ยังขาดอยู่ เช่น ลำกล้องท่อเก็บเสียง ซึ่งจำเลยให้การว่านำไปทิ้งน้ำ โดยเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอยู่

ทั้งนี้ ในการดำเนินคดี ตำรวจได้ตั้งข้อหาตามเจตนาที่ผู้กระทำผิดกระทำ คือ เจตนาฆ่า เจตนาชิงทรัพย์ มีอาวุธปืน ส่วนการที่ผู้ต้องหาให้การจะเป็นอย่างไรก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งวันนี้อาจให้การอย่างหนึ่งแต่อีกวันอาจให้การอีกอย่างหนึ่งก็ได้ อย่างเช่น วันนี้ บอกว่านำทองไปทิ้งน้ำ อีกวันอาจบอกนำไปซ่อนที่อื่น เป็นต้น ซึ่งต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างคำให้การกับ หลักฐาน และยืนยันว่าการการตั้งข้อหา เป็นการตั้งข้อหาโดยดูที่เจตนาเป็นหลัก และ ฟันธงว่า เป็นการกระทำที่ประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนที่ผู้ต้องหาบอกว่าเป็นเพราะอย่างก็เป็นสิทธิของเขา

“ส่วนกรณีข่าวที่ออกมาว่าหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การจับกุมครั้งนี้มาจาก การตรวจดีเอ็นเอจาก เหงื่อของผู้ต้องหานั้น ยืนยันว่าไม่มี และในการสืบสวนยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นร่วมด้วยหรือไม่ หากมีหลักฐานเชื่อมโยงก็จะดำเนินคดีด้วย สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ ก็ต้องสืบสวนสอบสวนและนำไปฝากขังตามขั้นตอนต่อไป” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“บิ๊กแป๊ะ”สั่งโอนคดี “ผอ.เหี้ยมปล้นทอง” ให้กองปราบฯ ทำหน่วยเดียว