“รมว.ยุติธรรม” แจงมาตการภาครัฐคุมผู้ต้องหาใช้กำไลอีเอ็ม ตั้งเป้าอนาคตลดจำนวนคนในเรือนจำหลักหมื่นถึงแสนคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค.63) ที่รัฐสภา มีการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีกระทู้ถามจากนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เรื่อง ปัญหาคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม ถึงการตรวจสอบมาตรฐานการใช้งานกำไลอีเอ็มของภาครัฐ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตอบกระทู้ดังกล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีนโยบายการตรวจสอบกำไลอีเอ็ม ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำสัญญาชุดใหม่ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยมีรายละเอียดตามหลักสากล คือใส่บริเวณข้อเท้า ไม่สามารถถอดออกได้ แต่ปกปิดได้ด้วยการใส่กางเกงขายาว ซึ่งได้รับรองจากหน่วยงานต่างประเทศว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ รองรับการทำงานเครือข่าย 3 จีขึ้นไป สามารถทดลองใช้ติดต่อในพื้นที่ทุรกันดารของประเทศได้
สำหรับผู้ต้องหาที่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะใช้กำไลอีเอ็มนั้น กระทรวงยุติธรรม ได้มีกองทุนในการประกันตัว และจัดหาทนายความ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย และลดความเหลื่อมล้ำในการใช้กำไลอีเอ็มอยู่แล้ว ในอนาคตเราจะลดจำนวนคนในเรือนจำโดยการใช้กำไลอีเอ็ม
ทั้งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดจำนวนผู้ต้องขังได้ที่หลักหมื่นถึงหลักแสนราย โดยปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ใช้กำไลอีเอ็ม 3,333 คน ผู้ถูกคุมความประพฤติ 3,200 คน และนักโทษ 105 คน โดยภายหลังที่ทั้ง 3 กลุ่มนี้ ใช้กำไลอีเอ็ม ได้รับการประเมินผลจากศาล พร้อมกับคนในครอบครัวและชุมชนแล้วว่า มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น คือผู้ต้องหาที่ใส่มีวินัยดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการทำผิดซ้ำได้ ทำให้สังคมรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีผู้ใส่กำไลอีเอ็มแล้วหลบหนีจำนวน 47 ราย มีเจตนาหลบหนีโดยชัดเจน 8 ราย มีเจตนาฝ่าฝืนเงื่อนไข 39 ราย ซึ่งทางศาลได้ออกหมายจับ และดำเนินคดีแล้ว
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
สธ.แถลงด่วน พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่รายแรกในไทย
