กองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน IRGC ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับเป็นผู้ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ส่วนทรัมป์ได้ทวีตความหลังการบึ๊มของอิหร่านว่า “ทุกอย่างยังดีอยู่”
วันนี้ (8 ม.ค.63) สำนักข่าว RT ของรัสเซีย รายงานว่า กองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน IRGC ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.62 ว่า “ทหารของหน่วยการบินและอวกาศของ IRGC ได้ประสบความสำเร็จในการปล่อยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศนับสิบลูกเข้าโจมตีเป้าหมายที่ฐานอัลอาซาด และในนามของ พล.ต.สุไลไมนี เราขอร้องให้สหรัฐอเมริกา สั่งกำลังทหารกลับสู่บ้านเกิดเพื่อป้องกันความสูญเสียมากกว่านี้”
ทางด้านความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม ตามเวลาในสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาทวีตข้อความหลังจากอิหร่านปฏิบัติการโจมตีกองทัพสหรัฐฯ 2 แห่งในอิรัก โดยระบุว่า ทุกอย่างยังดีอยู่ หลังจากการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น และคาดว่า จะมีแถลงการณ์ที่กรุงวอชิงตัน ในช่วงเช้าวันที่ 8 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ
ในขณะเดียวกันที่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ระบุว่า อิหร่านได้ทำการโจมตีฐานทัพของทหารสหรัฐฯ และกองกำลังชาติพันธมิตรในอิรัก 2 แห่ง คือฐานทัพอากาศอัล-อะซาด และฐานทัพในเออบิลด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูก
โจนาทาน ฮอฟแมน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ด้านสื่อ ออกแถลงการณ์ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าอิหร่านเป็นผู้ยิงขีปนาวุธเหล่านี้จากภายในอิรัก โดยมีเป้าหมายคือฐานทัพของกองกำลังสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในอิรัก 2 แห่ง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น
ฮอฟแมนระบุว่า ขณะเกิดเหตุฐานทัพอยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมสูงสุด เนื่องจากสถานการณ์บ่งชี้ว่าอิหร่านวางแผนที่จะทำการโจมตีกองกำลังสหรัฐรวมถึงผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาค
เพนตากอน ระบุว่า ในระหว่างที่สหรัฐทำการประเมินสถานการณ์และการตอบโต้ เราจะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องและดูแลกองกำลังสหรัฐและชาติพันธมิตรในภูมิภาคของเรา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เตรียมที่จะแถลงท่าทีของสหรัฐต่อกรณีดังกล่าวในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับฟังการบรรยายสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ทางด้านทรัมป์ได้ทวีตข้อความเพิ่มเติมว่า ฐานทัพสหรัฐฯ ถูกโจมตีจริง อยู่ระหว่างประเมิณความเสียหาย ยังยืนยันสหรัฐฯ มีกองทัพที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกที่ในโลก เตรียมแถลงข่าวพรุ่งนี้เช้า ตามเวลาสหรัฐฯ
อิหร่านได้ส่งจดหมายถึงเลขาธิการ ยูเอ็นแล้ว เพื่อชี้แจงปฏิบัติการที่เกิดขึ้นว่า อิหร่านไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดสงคราม และเป็นเพียงการส่งสัญญาณเตือนกองทัพที่บุกเข้ามาเพื่อทำร้ายอิหร่าน ซึ่งเป็นการป้องกันตนเองภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ มาตราที่ 51
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
