3 สารพิษ เดี๋ยวแบบ เดี๋ยวไม่แบน เบื้องลึก เบื้องหน้า เบื้องหลัง

3 สารพิษ เดี๋ยวแบบ เดี๋ยวไม่แบน เบื้องลึก เบื้องหน้า เบื้องหลัง


จากที่ 3 สารพิษอันตรายที่คร่าชีวิตเกษตรกร และผู้บริโภคเป็นจำนวนมากจนทำให้สาธารณสุขและเกษตรฯกดดันให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเอกฉันท์แบน แต่ต่อมาเมื่อมีการประชุมใหม่กับคณะกรรมการชุดใหม่กลับไม่แบน เป็นเพราะอะไร

นายไพศาล มังกรไชยา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ได้ ไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊ก Thaiquote เรื่อง“ทำไมเดี๋ยวแบน เดี๋ยวไม่แบน”โดยกล่าวว่าจากปัญหาเรื่องการแบน 3 สารพิษอันตรายในเกษตรกรรมนั้นจากตอนแรกมติออกมาให้แบนทั้งหมด แต่ต่อมาก็มีมติออกมาเป็นไม่แบน จนบางครั้งมีหลายคนมองว่ามีผลประโยชน์นอกในหรือไม่ ซึ่งทางคุณไพศาลมองว่าการมองแบบนั้นมันตื้นไป จะตื้นลึกอย่างไรเชิญติดตาม(สามารถติดตามการไลฟ์สด มุมมองประเด็นดังของ คุณไพศาล มังกรไชยา ได้เป็นประจำที่ Thaiquote) 

วันนี้มาคุยกันเรื่อง 3 สารพิษ ว่าทำไมเดี๋ยวแบน เดี๋ยวไม่แบน คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนหยัดมากร่วมกับรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯคุณมนัญญา ไชยเศรษฐ์ ซึ่งถือเป็นจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยที่ต้องการแบน 3 สารดังกล่าว ซึ่งเป็นยาฆ่าหญ้าเสีย 2 ตัว และเป็นยาฆ่าแมลงเสีย 1 ตัว มีการเดินเกมมวลชนสร้างกระแสร่วมกับนักเคลื่อนไหว ด้านเอ็นจีโอองค์กรต่างๆ พวกเกษตรอินทรีย์ทั้งหลายที่ปฏิเสธเรื่องสารเคมีอยู่แล้วรวมพลังกันจนคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งส่วนใหญ่เป็นเทคโนแครก เป็นข้าราชการ ซึ่งคนกลุ่มนี้ดีเอ็นเอของเขามองว่ายังสามารถใช้ได้และยังมีประโยชน์ เพราะเรียนมาจึงฝังอยู่ในดีเอ็นเอและความคิด และเมื่อนำมาโต้เถียงกันก็จะมีความเห็นต่าง ซึ่งเราก็เห็นว่าคนที่มีความเห็นต่างก็จะมีข้อมูลมานำเสนอมากมาย ผู้ที่เชื่อว่าไม่อันตรายก็จะมีข้อมูลที่มากมายเช่นกันและจะไม่เชื่อข้อมูลของอีกฝ่าย แต่ในที่สุดจบลงด้วยการเมือง เพราะการเมืองมีมวลชน

แม้ว่าคณะกรรมการประมาณ 70 % เห็นว่ายังมีประโยชน์ ยังควรต้องใช้แต่อาจต้องค่อยๆ ลดปริมาณ แต่แล้วในที่สุดก็เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนพร้อมกับคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ รัฐมนตรีก็เสียคนกันไป เพราะก่อนหน้านี้รัฐมนตรีสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจก็มีท่าทีที่แข็งขัน รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ต่างก็เห็นด้วยกับคุณอนุทิน ตอนนี้ก็มีการกล่าวหาว่าถูกนายทุนบริษัทซื้อตัวไปแล้ว

แต่ว่าจะบอกว่าเป็นเรื่องของการเห็นถึงประโยชน์ของคนค้าขายสารเคมีดังกล่าว รวมถึงอุตสาหกรรมที่ใช้ประโยชน์จากการเกษตรนี้แล้วต้นทุนไม่แพงนัก ทำให้ราคาผลผลิตไม่สูงนักและทำให้เข้าถึงราคาผลผลิตที่ต่ำ นำมาแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมเกษตร มาเป็นอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการส่งออก ตลาดต่างประเทศก็ใหญ่มาก โดยเฉพาะอาหารสัตว์ ซึ่งต้องใช้พืชเกษตรที่สำคัญคือข้าวโพด มันสำปะหลัง แปลงการผลิตพวกนี้กว้างใช้แรงงานไม่ได้ ต้องใช้สารเคมีในการเข้ามาควบคุม ยาฆ่าหญ้าลงข้าวโพดไป ถ้ามันเป็นเรื่องผลประโยชน์มีการซื้อกรรมการให้โหวตใหม่เพื่อเปลี่ยนมติ ดูเป็นความเข้าใจที่ตื้นเขินไปนิด เพราะระบบนี้เป็นระบบเชิงโครงสร้างที่ใหญ่กว่านั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าใครจะมาหยิบยื่นผลประโยชน์ หรือทำให้นักการเมืองเสียจุดยืนไปได้ ต้องเข้าใจก่อนว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกสูง 60-70 % มาคำนวณจีดีพี และหนึ่งในนี้อาหารสัตว์ถือว่ามียอดการส่งออกสูงและไทยมีศักยภาพมาก เราเป็นฐานการผลิตอาหรสัตว์ที่สำคัญของโลก และอาหารสัตว์เป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับภาคการเกษตร เชื่อมโยงกับปศุสัตว์ หมู กุ้ง ไก่ แล้วส่งออก

ฐานทางด้านอุตสาหกรรมการเกษตรถือว่าเป็นฐานและห่วงโซ่ที่ใหญ่ และถ้าหากเราไปตัดฐานดังกล่าว มันกระทบต่อกระบวนการผลิต กระทบต่อต้นทุนการผลิต เกษตรกรกระทบเทียบแล้วไม่เท่ากับอุตสาหกรรมกระทบ เกตษรกรถือว่าเป็นผู้ได้รับส่วนแบ่งเพียงน้อยนิดในระบบห่วงโซ่นี้ แต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือกลุ่มทุน ซึ่งก็ไม่ได้เพ่งเล็งไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มันมีหลายกลุ่ม ซึ่งมีทั้งใหญ่ กลาง เล็ก ซึ่งการแบนมีผลกระทบต่อเขา อันนี้จึงเป็นโจทย์ทางการเมืองที่ต้องหาทางลดปัญหา ผลกระทบเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนรู้ดี แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นภัยที่กำลังลัดคอรัฐบาลอยู่เช่นกัน จึงเป็นเรื่องการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่การไปรับเงินใครมา แนวนโยบายที่ต้องพึ่งการส่งออกมันรัดคอ จึงเป็นความจำเป็นของภาครัฐบาลที่จะต้องไปขยายภาคเศรษฐกิจส่วนอื่น โดยเฉพาะฐานรากให้สูงขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาภาคส่งออก ซึ่งเป็นเรื่องของกลุ่มทุนเพียงหยิบมือเท่านั้น ที่มีบทบาทสูงและเมื่อมีผลกระทบต่อเขา ทำให้เขามีอำนาจไปต้านทานหรือต่อรองได้ ข้าราชการเรียนมาถูกฝังมาว่าให้ใช้สารเคมีอยู่แล้วจึงเป็นเรื่องที่สอดรับกันหมด เราไม่จำเป็นต้องไปเรื่องตัวเงิน เอาแค่ระบบคิดกับโครงสร้างเศรษฐกิจแค่นี้ก็จบแล้ว ทำให้โอกาสที่จะเกิดการแบนเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอยู่แล้ว โจทย์อยู่ที่การปรับโครงสร้าง ลดอิทธิพลของภาคส่วนบางส่วนลง ทำให้ทางภาคการเมืองไม่ต้องไปเป็นเชลยต่อเหตุการณ์ เพราะมีส่วนอื่นๆ มารองรับไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกว้างขวางจนเกินไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ
“สุริยะ” สวน “อนุทิน” ยันเลื่อนแบนสารพิษทำถูกต้องตามกฎหมาย