ขนส่งเผย “รถบรรทุก” เกิดอุบัติเหตุเฉลี่ย 0.91 ครั้งต่อวัน

ขนส่งเผย “รถบรรทุก” เกิดอุบัติเหตุเฉลี่ย 0.91 ครั้งต่อวัน


เผยสถิติรถโดยสารสาธารณะ เกิดอุบัติเหตุเฉลี่ย 0.91 ครั้งต่อวัน ลดลงหลังมีมาตรการ Checkคน Checkรถ Checking Point พร้อมขยายผลต่อในรถบรรทุก

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ.ได้ดำเนินการตรวจสอบสมรรถภาพของร่างกายผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ และตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงของรถโดยสารสาธารณะ ตามมาตรการ Check คน Check รถ Checking Point ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2562 เป็นต้นมา พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ มีค่าเฉลี่ยลดลงเหลือ 0.91 ครั้งต่อวัน ซึ่งลดลงจากค่าเฉลี่ยช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1.24 ครั้งต่อวัน

ดังนั้นจึงได้ขยายผลการดำเนินการสู่การตรวจสอบรถบรรทุกและผู้ขับรถ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน ลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ อันนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการขนส่งในภาพรวม โดยกำหนดตรวจสอบรถบรรทุกและผู้ขับรถตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ดังนี้

การตรวจสอบ ณ สถานประกอบการขนส่งทั่วไปและสถานประกอบการขนส่งของผู้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Q Mark, การตรวจสอบ ณ สถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง ร่มเกล้า และพุทธมณฑล, การตรวจสอบขณะออกตั้งจุดตรวจการขนส่งตามภารกิจปกติ รวมถึงจุด Checking Point รถโดยสารที่มีอยู่ในปัจจุบัน และการตรวจสภาพรถบรรทุกเพื่อชำระภาษีประจำปี โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการเร่งด่วนภายใน 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 24 กุมภาพันธ์ 2563

สำหรับการดำเนินการตามมาตรการ Check คน Check รถ Checking Point รถบรรทุกและผู้ขับรถ จะดำเนินการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกัน ประกอบด้วย การตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงของรถบรรทุก อาทิ ระบบไฟฟ้า ยาง กระจก ติดตั้งอุปกรณ์และแผ่นสะท้อนแสง GPS Tracking รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ต้องตรวจสอบอุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้าหรือทวิสล็อก (Twist-Lock) ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยผู้ประกอบการขนส่งสามารถนำรถเข้าตรวจสอบความพร้อมของรถได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ และจุดต่างๆ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด รวมถึงจุด Checking Point รถโดยสารที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งดำเนินการตรวจสอบรถบรรทุกและควบคุมกำกับดูแลผู้ขับรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการใช้ความเร็วในการขับรถ จำนวนชั่วโมงในการขับรถ การใช้ใบอนุญาตขับรถให้ถูกต้องตามประเภท รวมถึงกำชับในการปฏิบัติหน้าที่ขับรถ “แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขนส่งสินค้า

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
นักวิชาการ ชี้ ค่ายมือถือเตรียมตัวเจ๊ง เผย 3 ยักษ์ใหญ่พร้อมให้ Wifi ฟรี